นักวิจัยยืนยันคุณสมบัติของน้ำมันมะกอก

นักวิจัยยืนยันคุณสมบัติของน้ำมันมะกอก

ข่าวดีของคนไทยน้ำหนักเกินและผู้ป่วยโรคเบาหวานนับล้าน[1] หลังผลวิจัยชี้ การบริโภคน้ำมันมะกอกช่วยลดน้ำหนักและป้องกันโรคเบาหวานได้จริง

 

ขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วนในประเทศไทยกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคได้ประกาศการค้นพบสาเหตุเบื้องหลังคุณสมบัติของน้ำมันมะกอก ในฐานะทางเลือกราคาย่อมเยาในการป้องกันโรคเบาหวานและลดไขมันที่สะสมในร่างกาย[2] โดยงานวิจัยชิ้นดังกล่าวระบุว่าสารประกอบในน้ำมันมะกอกอย่าง“โอรียูโรพีอีน” มีส่วนช่วยกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญและระดับน้ำตาลในเลือด จึงนับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่อาจเข้ามามีบทบาทในการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขของประเทศไทย เนื่องจากในปัจจุบัน คนไทยนับล้านตกอยู่ในภาวะเสี่ยงเป็นโรคในกลุ่มNCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โดยสถิติล่าสุดจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พบว่าคนไทยกว่าร้อยละ32 มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานพุ่งสูงถึง 4 ล้านคน และที่น่าเป็นห่วงคือมีผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัวอีกกว่า7.7 ล้านคน1

 

“ผลงานวิจัยนี้ช่วยตอบข้อสงสัยที่มีมายาวนานว่าทำไมผลิตภัณฑ์จากมะกอกถึงสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานได้”ผศ. ดร. ปิน ซวี จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนียเทคอธิบาย“ปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง และเราหวังว่างานวิจัยครั้งนี้จะทำให้คนทั่วไปหันมาให้ความสำคัญกับการเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์จากมะกอกมากขึ้น”

 

ผลงานวิจัยล่าสุด ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารสมาคมเคมีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่าสารประกอบ“โอรียูโรพีอีน” ซึ่งเป็นสารประกอบฟีนอลิกที่พบในผลมะกอก มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินในร่างกาย โดยอินซูลินจะนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์เพื่อไปเผาผลาญเป็นพลังงาน และยังทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของระบบเผาผลาญของร่างกาย กล่าวคือเมื่อระดับอินซูลินสูงขึ้น จะยับยั้งการสะสมไขมันในร่างกายอันเป็นสาเหตุหลักของปัญหาน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สาร“โอรียูโรพีอีน” ยังช่วยยับยั้งความเป็นพิษต่อเซลล์ซึ่งเกิดจากโมเลกุล“อะมีลิน” ที่พบในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่สองอีกด้วย

 

น้ำมันมะกอกขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพและมีส่วนช่วยยืดอายุของผู้ที่รับประทานเป็นประจำ[3] แต่ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีหลักฐานเชิงชีวเคมีมาระบุถึงสาเหตุเบื้องหลังคุณประโยชน์ของน้ำมันมะกอกในด้านดังกล่าวอย่างชัดเจน ดังนั้น การค้นพบครั้งนี้จึงช่วยให้คนไทยที่ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคอ้วนสามารถป้องกันตัวเองจากสองโรคร้ายได้ง่าย ๆ เพียงแค่รับประทานน้ำมันมะกอกเป็นประจำ ควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารให้มีสมดุลทางโภชนาการ ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนห่างไกลจากโรคเบาหวาน และยังทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้อีกด้วย

 

“เป็นที่ทราบกันดีว่าน้ำมันมะกอกเปี่ยมไปด้วยคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย แต่ผลการวิจัยซึ่งสามารถอธิบายถึงสารออกฤทธิ์ในน้ำมันมะกอกที่ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานและช่วยลดน้ำหนักได้นั้น นับเป็นความรู้ใหม่ ซึ่งพวกเราหวังว่าจะมีส่วนช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นครับ”นายอัลแบร์โต้ เปเรซ มาร์ติน ผู้อำนวยการเบอร์ทอลลี่ประเทศไทยและเอเชีย แบรนด์น้ำมันมะกอกอันดับหนึ่งในประเทศไทยกล่าว

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ:

ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ ประเทศไทย

ภัณฑิรา เชิดบุญเมือง (แก้ม) / กานติมา วรรธนะกวิน (แนต)

โทร0-2627-3501 ต่อ159 หรือ 225

อีเมล์: [email protected] / [email protected] / [email protected]

[1]ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2560 

[2]ที่มา: https://vtnews.vt.edu/articles/2017/09/091317-fralin-olives.html

[3] ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/articles/2017-03-20/italy-s-struggling-economy-has-world-s-healthiest-people