เน็กเซ็น ไทร์ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ มูบาดาลา

- กองทุนเพื่อการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์แห่งอาบูดาบี เตรียมลงทุนในหุ้นและสำรวจโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจ

- เน็กเซ็น ไทร์ เร่งขยายธุรกิจด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งใหม่

เน็กเซ็น ไทร์ (Nexen Tire) ผู้ผลิตยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลก และ มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ คอมปะนี (Mubadala Investment Company) กองทุนเพื่อการลงทุนเชิงยุทธศาสตร์แห่งอาบูดาบี ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ในวันนี้ เพื่อแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ผ่านทางความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยมูบาดาลาได้ลงทุนโดยตรงในบริษัทเน็กเซ็นภายใต้ข้อตกลงครั้งนี้

https://photos.prnasia.com/prnvar/20170719/1902216-1

เน็กเซ็น ไทร์ เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ระดับ 15% ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทจำหน่ายยางรถยนต์ 40 ล้านเส้นต่อปีไปยังกว่า 140 ประเทศทั่ว

โลก โดยยางกว่า 4 ล้านเส้นได้ถูกส่งออกไปจำหน่ายในตะวันออกกลาง

คัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค กรรมการผู้จัดการและซีอีโอกลุ่มมูบาดาลา และ ทราวิส คัง ซีอีโอของเน็กเซ็น ไทร์ ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจ ณ กรุงอาบูดาบี ในวันที่ 19 กรกฎาคม

รองซีอีโอกลุ่ม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนทางเลือกแห่งมูบาดาลา กล่าวว่า "ในฐานะธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานสูงและมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมากในระดับโลก เน็กเซ็น ไทร์ จึงมอบโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจให้แก่ มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ คอมปะนี ซึ่งแนวทางการลงทุนของเรานั้นมุ่งเน้นไปที่การจับมือเป็นพันธมิตรกับสุดยอดองค์กรระดับโลกเป็นสำคัญ โดยถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น และเรามุ่งหวังที่จะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ร่วมกับเน็กเซ็น ไทร์"

ขณะที่ ทราวิส คัง ซีอีโอ เน็กเซ็น ไทร์ กล่าวว่า "ความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ มูบาดาลา อินเวสต์เมนต์ คอมปะนี ถือเป็นหลักชัยสำคัญสำหรับ เน็กเซ็น ไทร์ บนเส้นทางแห่งการก้าวเป็น 1 ใน 10 บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ระดับโลกภายในปี 2568 ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของ เน็กเซ็น ไทร์ ในตลาดนานาชาติ"

นอกเหนือจากการลงทุนในหุ้นแล้ว มูบาดาลา และ เน็กเซ็น จะแสวงหาความริเริ่มทางธุรกิจในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งอาจรวมถึงการลงทุนเพิ่มเติม ตลอดจนการยกระดับความร่วมมือในการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศของ เน็กเซ็น ไทร์ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในด้านอื่นๆ อาทิ เทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่สัมพันธ์กับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4