SKR ตั้ง “สุริยันต์ “ นั่งบอร์ดเดินหน้าธุรกิจหมื่นล้าน

บอร์ด SKR มีมติแต่งตั้ง “สุริยันต์  โคจรโรจน์” นั่งควบสองตำแหน่ง กรรมการและกรรมการบริหาร เดินหน้าธุรกิจโรงพยาบาลกว่าหมื่นล้านบาท นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ กรรมการและกรรมการบริหาร   บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงพยาบาลศิครินทร์  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) (SKR) ครั้งที่6/2560 ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา มีมติแต่งตั้ง นายสุริยันต์ โคจรโรจน์ เข้าเป็น กรรมการบริษัทแทนนายอมรฤทธิ์ เกาไศยานนท์ กรรมการคนเก่าที่ลาออกไป พร้อมกันนี้ได้มีมติแต่งตั้งเป็น กรรมการบริหารเพิ่มเติมอีก 1 ตำแหน่ง ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงกรรมการดังกล่าว เพื่อความเหมาะสมในกาบริหารงานโดยที่ผ่านมา นายสุริยันต์ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงและลูกหม้อคนสำคัญของบริษัท ร่วมกับคณะกรรมการของ SKR 

โดยปัจจุบันคณะกรรมการบริหาร SKR เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ  นายแพทย์อติรัชต์  จรูญศรี เป็นกรรมการและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ,  นายเสนีย์ จิตตเกษม อดีตข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย  , นายศักดิ์ชัย ธนบุญชัย  สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและกรรมการในหลายบริษัทของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย, นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตากุล เจ้าของกลุ่ม VIBHA และCMR, นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ เจ้าของกลุ่ม JRW และอดีตกรรมการและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของแอร์พอร์ทลิงค์, ดร.วิชญะ เครืองาม บุตรชาย ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และล่าสุดได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อกำกับการปฏิรูปกฎหมาย และ ดร.ทิม นพรัมภา บุตรชายนายธีรพล นพรัมภา อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช

ดังนั้นการเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายในฐานะกรรมการบริษัทครั้งนี้ เชื่อว่าจะต้องมีการปรับแผนธุรกิจครั้งสำคัญ หลังจากที่ผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 พบว่า  แม้ผลกำไรจะมีการปรับตัวลดลงแต่รายได้จากการรักษาพยาบาลกลับปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ  สำหรับนายสุริยันต์ โคจรโรจน์ ปัจจุบันอายุ 37 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรที่สำคัญต่างๆ อาทิเช่น DAP รุ่น 106/2013 , RECU รุ่น 46 , CSP รุ่น 46/2012 โดยปัจจุบันยังดำรงตำแหน่ง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านปฎิบัติการ ของ SKR รวมถึงมีสัดส่วนการถือหุ้น SKR ตามรายงานที่แจ้งในตลาดหลักทรัพย์คิดเป็น1.34% หรือ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท