7 สถานที่ท่องเที่ยวต้องไปชมในจาการ์ต้า

7 สถานที่ท่องเที่ยวต้องไปชมในจาการ์ต้า

อินโดนีเซีย มีหลากหลายเผ่าพันธุ์มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น กรุงจาการ์ต้า บาหลี บันดุง สุราบายา และ บูโรพุทธโธ


อินโดนีเซียเพื่อนบ้านเรา นับเป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่อันดับ 14 ของโลก แต่ถ้านับรวมกับพื้นที่ทางทะเลแล้วจะมีขนาดใหญ่อันดับ 7 ของโลก ปัจจุบันมีประชากรราว 260 ล้านคนมากเป็นอันดับ 4 ของโลก มีหลากหลายเผ่า

พันธุ์ ทั้งยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น กรุงจาการ์ต้า บาหลี บันดุง สุราบายา และ บูโรพุทธโธ เป็นต้น  

สำหรับจาการ์ต้าเมืองหลวงมีประชากร 12 ล้านคน (โดยมีประชากรในพื้นที่ 10 ล้านคน และมาทำงานแบบเช้ามาเย็นกลับอีก 2 ล้านคน) ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย

7 สถานที่ท่องเที่ยวต้องไปชมในจาการ์ต้า

1. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

นับเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดของจาการ์ตา เน้นไปที่ประวัติศาสตร์ของเมืองหลวงแห่งนี้และเรื่องราวทั่วไปของอินโดนีเซีย พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในอาคารที่โดดเด่นแห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 19 ของจาการ์ต้า ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุและสิ่งของทางศาสนาซึ่งรวบรวมจากวัดหลายแห่งในเกาะชวา อีกทั้งเครื่องเซรามิกของจีนที่ประเมินค่ามิได้และเครื่องบรรณาการต่างๆ ที่ใช้มอบให้แก่ผู้ปกครองท้องถิ่นในหลายศตวรรษที่ผ่านมา

ความโดดเด่นที่ประทับใจคนไทย คือมีรูปปั้นช้างที่รัชกาลที่ 5 ทรงมอบให้เมื่อเสด็จอินโดนีเซีย และตั้งโดดเด่นหน้าพิพิธภัณฑ์จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของพิพิธภัณฑ์ที่ใครๆต่างเรียก พิพิธภัณฑ์ช้าง

2.อนุสาวรีย์แห่งชาติโมนัส

สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ผู้คนรู้จักมากที่สุดในกรุงจาการ์ตา จนได้ชื่อว่าเป็นไอคอนแห่งจาการ์ตาเลยก็ว่าได้ อนุสาวรีย์ความสูง 137 เมตรแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสแห่งเสรีภาพ ภายในคือพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์และวัตถุทางโบราณคดีของประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนั้นยังมีสถานะเป็นหนึ่งในศูนย์รวมความบันเทิงของเมือง ที่ผู้คนหลากหลายสถานะทางสังคมมักจะมาชุมนุมกันอยู่ที่นี่เสมอไม่ว่าช่วงกลางวันหรือยามค่ำคืน

ที่นี่ยังมักจะถูกใช้เป็นศูนย์กลางของงานแสดงศิลปะและเทศกาลวัฒนธรรมอยู่เสมอโดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมฟรีอีกด้วย ส่วนข้างบนของอนุสาวรีย์แห่งชาติโมนัสประชาชนยังสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบๆ เมืองได้จากหอสังเกตการณ์ทางด้านบน หรือจะโดยสารลิฟท์ขึ้นไปยังยอดตึกและชมทัศนียภาพของเมืองให้เต็มอิ่มก็ได้เช่นกัน

และยังเป็นที่เก็บใบประกาศอิสรภาพภายหลังจากอินโดนีเซียเคยถูกดัทช์ปกครองถึง 350 ปี และญี่ปุ่นปกครอง 3ปี

 3. มัสยิดอิสติกลัล

มัสยิดแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังมีภาพความงดงามของวิถีชีวิตให้พบเห็น เนื่องจากจาการ์ตาเป็นเมืองแห่งชุมชนอิสลาม การเยี่ยมชมมัสยิดขนาดใหญ่แห่งนี้จึงเป็นวิธีที่เหมาะแก่การสังเกตวิถีการดำเนินชีวิตแบบชุมชนทางศาสนาอิสลามในจาการ์ต้า

ผู้เข้าเยี่ยมชมจะได้รับอนุญาตให้เข้าเฉพาะเวลาที่ไม่มีการทำพิธีละหมาด ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อยและถอดรองเท้าก่อนเข้ามัสยิด มัสยิดสีขาวอร่ามแห่งนี้รองรับจำนวนผู้ศรัทธาได้มากถึง 200,000 คน

4.วิหารจาการ์ตา

สถานประกอบคริสตศาสนกิจ ซึ่งใหญ่โตและงดงามที่สุดในอินโดนีเซีย ชมความล้ำลึกในสถาปัตยกรรมของวิหารนีโอกอธิค คาทอลิกแห่งกรุงจาการ์ตา และเรียนรู้ถึงความโดดเด่นในเชิงสถาปัตยกรรมที่ทำให้วิหารแห่งนี้มีความแตกต่าง ด้วยผลงานศิลปะเชิงศาสนาชั้นเลิศแห่งประเทศนี้ และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เพื่อรับทราบถึงเรื่องราวในอดีตของตัวอาคาร

วิหารจาการ์ตา หรือชื่อเต็มคือโบสถ์พระแม่แห่งอัสสัมชัญ (Church of Our Lady of Assumption) ได้รับการออกแบบโดยสาธุคุณชาวเนเธอร์แลนด์ Antonius Dijkmans และสร้างเมื่อปี 1901 ตลอดช่วงเวลากว่า 100 ปี โบสถ์มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และยังคงเป็นที่ประกอบพิธีมิสซาอยู่ทุกสัปดาห์ ทั้งยังเป็นที่ตั้งอาสนะของอาร์ชบิชอปแห่งจาการ์ตาอีกด้วย

ยอดแหลมคู่สีงาช้าง ยอดคู่นี้สูง 197 ฟุตขึ้นสู่ท้องฟ้า โครงสร้างเหล็กของยอดคู่นี้ผิดแผกจากที่อื่น โดยสาเหตุที่เลือกใช้เหล็กแทนศิลาตามปกติทั่วไปนั้นคือเพื่อให้ต้านทานแผ่นดินไหวได้ดีกว่า หน้าต่างกรุกระจกสีโค้งใหญ่เหนือประตู ผลงานสีสันอันเตะตานี้คือภาพของพระแม่มารี เมื่อเข้าสู่ด้านในแล้ว แหงนหน้าขึ้นมองเพดานไม้โค้งอันชวนตื่นตา ตามข้างกำแพง จะพบเห็นชิ้นงานศิลปะหลากหลายรายการ ซึ่งรวมถึงรูปภาพวิหารอันเป็นเอกลักษณ์จากการวาดแต้มสีบนใบตองแห้ง รูปภาพนี้เป็นผลงานของศิลปินชาวท้องถิ่น Kusni Kasdut ซึ่งยังมีชื่อในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มวางแผนจารกรรมผลงานศิลปะหลายต่อหลายชิ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 แล้วมองหารูปปั้นสไตล์บาโรกและออร์แกนหลังใหญ่สไตล์นีโอกอธิค ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งทิศใต้ของตัววิหาร

พิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่ชั้นล่าง จะได้เห็นวัตถุเก่าแก่นานาชนิด เช่น หนังสือและเสื้อคลุมโบราณ อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตเทียน

 5. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์จาการ์ต้า (มิวเซียม เซจารา,พิพิธภัณฑ์ฟาตาฮิลละห์)

ประวัติศาสตร์อันเฟื่องฟูของอินโดนีเซียมาบรรจบกับตัวอย่างชั้นเลิศของสถาปัตยกรรมสมัยอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่าพิพิธภัณฑ์ฟาตาฮิลละห์หรือพิพิธภัณฑ์บาตาเวีย และเปิดทำการเมื่อปี 1974 แต่ตัวอาคารมีอายุมากกว่านั้นนานโข โดยมีอายุย้อนไปถึงปี 1710 เมื่อชาวดัตช์ตั้งให้เป็นศูนย์การปกครองของอาณานิคมแห่งใหม่ของพวกเขา

สำรวจโถงทั้ง 37 ห้องของพิพิธภัณฑ์ แต่ละโถงจัดแสดงยุคสมัยที่แตกต่างกันของประวัติศาสตร์ประเทศ พิพิธภัณฑ์มีวัตถุต่างๆ รวบรวมไว้มากมายถึง 23,500 ชิ้น การจัดแสดงส่วนใหญ่เป็นเครื่องเตือนใจถึงอดีตอาณานิคมเนเธอร์แลนด์ ละลานตาไปกับแผนที่ เฟอร์นิเจอร์โบราณ ตลอดจนของที่ระลึกหายากมากมาย เช่น เครื่องปั้นดินเผาและภาพเขียนจากบริษัท Dutch East India ของดัตช์ องค์กรนี้เป็นผู้ควบคุมกิจการค้าขายแลกเปลี่ยนภายในอาณาบริเวณในช่วงศตวรรษที่ 17 ถึง 18

เดินเล่นไปในสวนของพิพิธภัณฑ์และด้านหลังของตัวอาคาร คุณจะพบกับศิลปวัตถุมากมายจากอินโดนีเซียและยุโรป พบกับส่วนจัดแสดงเครื่องเรือนเก่าแก่สไตล์บาตาเวีย

แต่ขณะนี้อยู่ในช่วงปิดซ่อมอาคารบางส่วน สิ่งของจึงนำไปถูกเก็บไว้ แต่สามารถเดินเล่มชมอาคารทั้งภายในและภายนอกได้

6. พิพิธภัณฑ์หุ่นและหนังใหญ่

ตั้งอยู่ภายในย่านเมืองเก่าของจาการ์ต้า พิพิธภัณฑ์หุ่นและหนังใหญ่แห่งนี้ รวบรวมหุ้นเชิดนานาชนิตที่มีอยู่ในประเทศอินนีเซีย รวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และบุคคลิกของตัวละครแต่ละตัวด้ว นอกจากกนี้ ยังมีหุ้นจากนานาประเทศรวมทั้งหุ่นจากประเทศไทยด้วย

7. ตามัน มินิ อินโดนีเซีย อินดาห์

ที่นี่ถูกเรียกอีกอย่างว่า “Beautiful Indonesia Miniature Park” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความมีเสน่ห์ของชนเผ่าที่อาศัยอยู่บนเกาะของอินโดนีเซีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา ในพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 250 เอเคอร์ (ประมาณ 625 ไร่)

นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมที่นี่ก็จะได้พบกับความหลากหลายของอาคารบ้านเรือนในรูปแบบต่างๆ ในแต่ละจังหวัดของประเทศ เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม วัตถุมงคลประจำแต่ละเผ่า รวมถึงศิลปะ ประเพณี และการแสดงทางวัฒนธรรมจากทั้งหมด 33 จังหวัดในประเทศอินโดนีเซีย เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านั้นภายในบริเวณตามันมินิอินโดนีเซียอินดาห์ยังมีทะเลสาบขนาดเล็กให้ได้พักผ่อนหย่อนใจ รวมทั้งสวนกล้วยไม้ สวนนก พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ IMAX โรงละคร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมายไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือน

การเดินทางทริปนี้สะดวกมากโดย การูด้า อินโดนีเซีย สายการบินแห่งชาติของอินโดนีเซีย

ขอขอบคุณ กระทรวงข่าวสาร วัฒนธรรมสังคม อินโดนีเซีย,การท่องเที่ยวจาการ์ต้า และสถานทูตจาการ์ต้าประจำประเทศไทย นำเสนอการเดินทางของ 3 บล็อกเกอร์จากเพจ Travelista นักเดินทาง,ช่างภาพขาลุย, มีเดียแอนด์บล็อกเกอร์คลับและ Restaurant Society