กรมวิชาการเคลียร์คำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย
กรมวิชาการเกษตร เคลียร์คำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายจาก 50 คำขอ ผ่านการพิจารณาเพียง 9 คำขอ เผยหลักเกณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ความสำคัญตามนโยบายเกษตร
กรมวิชาการเกษตร เคลียร์คำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายจาก 50 คำขอ ผ่านการพิจารณาเพียง 9 คำขอ เผยหลักเกณฑ์ขึ้นทะเบียนให้ความสำคัญตามนโยบายเกษตรอินทรีย์ ให้ความสำคัญสารสกัดธรรมชาติและสารที่มีพิษน้อยเป็นลำดับแรก พร้อมประเมินความปลอดภัยรอบด้าน ทั้งข้อมูลพิษวิทยา ประสิทธิภาพ และคุณภาพผลิตภัณฑ์
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ชี้แจงกรณีที่มีข่าวว่า กรมวิชาการเกษตร มีนโยบายที่สวนทางกับนโยบายของพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ ที่เคยกล่าวมอบนโยบาย ว่า “ต้องส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้กับเกษตรกร และผู้บริโภคจะได้บริโภคสินค้าที่มีความปลอดภัย” แต่ปรากฏว่าในการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 มีการพิจารณาเพิ่มเติมแหล่งผลิตสารเคมีมีพิษทางการเกษตร ใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย เพียงแค่วันเดียวมีมากถึง 50 คำขอด้วยกัน หมายความว่า เป็นการเปิดทางให้มีการนำเข้าวัตถุมีพิษภาคการเกษตร ในปริมาณเพิ่มสูงขึ้น นั้นการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 เป็นการประชุมตามวาระปกติ เพื่อพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนเพื่อการอนุญาตนำเข้าวัตถุอันตราย ซึ่งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย มีหลักเกณฑ์ในการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตราย ดังนี้
ลำดับแรกให้ความสำคัญกับการพิจารณาขึ้นทะเบียนกลุ่มวัตถุอันตรายที่มีความปลอดภัย ได้แก่ สารสกัดจากธรรมชาติ สารชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช และกลุ่มสารเคมีที่ใช้ในพืชอาหาร มีข้อมูลความเป็นพิษน้อยตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก เพื่อสนองตามนโยบายส่งเสริมการทำการเกษตรระบบเกษตรอินทรีย์ของพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลำดับที่ 2 เป็นสารเคมีที่มีความจำเป็นต้องใช้แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ในกลุ่มแรก โดยใช้ข้อมูลการประเมินความเสี่ยงอันตรายและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้การพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ จะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ที่สำคัญ 3 ข้อ ดังนี้ ข้อมูลพิษวิทยา ผลการทดลองประสิทธิภาพ และผลการวิเคราะห์คุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นทะเบียนเพื่อการอนุญาตนำเข้าวัตถุอันตรายเป็นมาตรการหนึ่งในการควบคุมปริมาณนำเข้าวัตถุอันตราย เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้สารเคมีที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดศัตรูพืช ป้องกันไม่ให้ผลผลิตเสียหาย คุ้มค่ากับเงินที่ลงทุน และที่สำคัญต้องเป็นสารเคมีมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางการเกษตรเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2560 ที่ผ่านมาเป็นการพิจารณาเอกสารคำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายจำนวน 50 คำขอ โดยเป็นคำขอขึ้นทะเบียนในวัตถุอันตรายที่เคยอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนแล้วแต่มีผู้ประกอบการรายอื่นประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนสารดังกล่าว ผลการประชุมของคณะอนุกรรมการฯ สรุปได้ดังนี้
ดังนั้นจากข้อมูลดังกล่าวแสดงว่ามีคำขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายผ่านการพิจารณารับขึ้นทะเบียนเพียง 9 คำขอ ไม่ผ่าน 41 คำขอ โดยแยกเป็นสารที่ก่อให้เกิดการระบาดของศัตรูพืช 2 ไม่ใช่พืชอาหาร(เดี่ยว-หลัก) 3 ไม่ใช่พืชอาหาร 14 การทดลองร่วม 22 โดยเป็นคำขอขึ้นทะเบียนในวัตถุอันตรายที่เคยอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนไว้ก่อนแล้วแต่มีผู้ประกอบการรายอื่นประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนสารดังกล่าว