นักวิจัยดาวรุ่งมจธ.กับพัฒนาหุ่นยนต์“BLISS”เพื่อเด็กออทิสติก

นักวิจัยดาวรุ่งมจธ.กับพัฒนาหุ่นยนต์“BLISS”เพื่อเด็กออทิสติก

ดร.บุญเสริม ได้รับ“รางวัลด้านวิชาการ เน้นคุณค่าทางด้านสังคมและชุมชน”สร้างหุ่นยนต์“BLISS”เป็นแพลตฟอร์มช่วยผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดเด็กออทิสติก

ผศ.ดร.บุญเสริม แก้วกำเหนิดพงษ์อาจารย์ประจำหลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) คือ 1 ใน 3 นักวิจัยดาวรุ่งมจธ. ตามที่ คณะทำงานส่งเสริมชื่อเสียงด้านวิชาการได้จัดทำโครงการรางวัลนักวิจัยดาวรุ่งมจธ.ครั้งที่ 4 ประจำปี 2558 เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและยกย่องอาจารย์นักวิจัยรุ่นใหม่โดย ดร.บุญเสริม ได้รับรางวัลด้านวิชาการ เน้นคุณค่าทางด้านสังคมและชุมชน”โดยมีผลงานชื่อ “การพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อส่งเสริมพัฒนาการด้านการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสำหรับเด็กออทิสติก” โดยสร้างหุ่นยนต์BLISSซึ่งเป็นแพลตฟอร์มช่วยผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดเด็กออทิสติกผ่านเกมส่งเสริมพัฒนาการที่สามารถออกแบบได้หลากหลายหุ่นยนต์ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างเด็กกับผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กผ่านหน้าตาที่เป็นมิตรให้เขาเรียนรู้เรื่องการแสดงสีหน้าและอารมณ์

นอกจากนี้ยังสามารถเคลื่อนที่ได้ มีแสงและเสียง สำหรับดึงความสนใจเด็กให้อยู่กับการทำกิจกรรมได้อีกด้วยเด็กจะได้เรียนรู้เนื้อหาความรู้ภายในเกมและเรียนรู้การควบคุมตนเองในสังคมผ่านทางกฎกติกาของเกมผู้เชี่ยวชาญสามารถปรับเปลี่ยนเกมได้เองตามความเหมาะสมได้ในเกมที่ออกแบบให้เล่นร่วมกันได้หลายคน เด็กจะได้ฝึกทักษะการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นระหว่างการเล่นเกม หุ่นยนต์ก็ช่วยเก็บข้อมูลไว้ให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์เพื่อปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้เหมาะสมต่อไปได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เด็กออทิสติกมีพัฒนาการด้านสติปัญญาควบคู่กับทักษะการปฏิสัมพันธ์กับสังคมที่ดีขึ้นได้

“ตอนนี้เรามีหุ่นยนต์ที่สามารถรองรับเกมส่งเสริมพัฒนาการได้หลากหลายเรากำลังออกแบบเกมให้มีเกมส่งเสริมพัฒนาการมากขึ้น ให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยต่าง ๆ ปัจจุบันทีมวิจัยได้สร้าง “BLISS” ขึ้นมาอีกหลายตัว เพื่อดำเนินงานวิจัยร่วมกับสถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข”

ผศ.ดร.บุญเสริม ระบุว่า ท้ายที่สุดอยากพัฒนาต่อไปให้หุ่นยนต์BLISSสามารถช่วยให้ผู้ปกครองบำบัดและส่งเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติกได้เองที่บ้านด้วยโดยผู้เชี่ยวชาญสามารถออกแบบกิจกรรมให้ไปฝึกที่บ้าน เข้าถึงข้อมูลการฝึกจากระยะทางไกล และวิเคราะห์พัฒนาการของเด็กเพื่อปรับกิจกรรมให้เหมาะสมในการเข้ารับการบำบัดครั้งต่อไปได้ก็จะทำให้การบำบัดเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น