“คอมเซเว่น” เล็งบุกตลาด เกม-ไอโอที

“คอมเซเว่น” เล็งบุกตลาด เกม-ไอโอที

เมินกระแส “หัวเว่ย” ชี้ผู้บริโภคมีสิทธิเลือก จัดทัพสินค้าตอบโจทย์หนุนปี 62 โตต่อ

คอมเซเว่นไม่กังวลหัวเว่ยโดนสหรัฐแบน มองผู้บริโภคมีโอกาสเลือกแบรนด์อื่นแทนที่ ระบุคอมเซเว่นมีสมาร์ทโฟนในพอร์ตครบทุกแบรนด์ชั้นนำ พร้อมเดินหน้าขยายการเติบโตในสินค้ากลุ่มอื่น ลุยตลาดเกม ไอโอที มั่นใจยอดขายทั้งปีเติบโตตามเป้า

นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของประเทศไทย กล่าวว่า กรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศแบนหัวเว่ย และต่อมากูเกิลประกาศยุติการทำธุรกิจกับหัวเว่ยนั้น บริษัทไม่กังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะหากมีการประกาศออกมาอย่างชัดเจน ลูกค้ามีโอกาสตัดสินใจซื้อ และสามารถเลือกซื้อแบรนด์อื่นแทนที่ได้ ซึ่งคอมเซเว่นเป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนครบทุกแบรนด์ชั้นนำในตลาดอยู่แล้ว

โดยสัดส่วนสินค้าของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 1 ปี 2562 กลุ่มสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสมาร์ทโฟนและไอโฟน มีสัดส่วน 51% ของรายได้รวม และมีอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มไอโฟนเป็นยอดขายหลักของกลุ่ม ขณะที่ สมาร์ทโฟนแบรนด์ชั้นนำยังมีโอกาสเติบโตสูง ได้แก่ ซัมซุง หัวเว่ย ออปโป้ วีโว่ ซึ่งปัจจุบัน หัวเว่ยมีสัดส่วน 3% ของรายได้รวมทั้งหมด

นอกจากนี้ คอมเซเว่นไม่ได้พึ่งพิงแบรนด์ใดเป็นพิเศษ และไม่ได้ขายสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียว บริษัทฯ ยังมีสินค้ากลุ่มอื่นๆ ในพอร์ตอีกมาก ได้แก่ กลุ่มแอสเซสซอรี่ แทบเล็ต เดสก์ทอป เป็นต้น รวมถึงยังมีแผนรุกสินค้าในกลุ่มเกมมิ่ง และสินค้ากลุ่มอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที สินค้านวัตกรรม ซึ่งเป็นสินค้าที่อยู่ในเทรนด์และมีโอกาสเติบโต

“เรามองผลกระทบเรื่องนี้เป็นสองมุม อันดับแรก หากมีการประกาศอย่างชัดเจนออกมาในเรื่องของกูเกิล แบนหัวเว่ยเกิดขึ้นจริง ผลกระทบในทางลบที่จะเกิดขึ้นกับคอมเซเว่นจะน้อยมาก เนื่องจากปัจจุบัน เรามีสัดส่วนยอดขายหัวเว่ยเพียง 3% ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะเดียวกัน หากเรื่องนี้ไม่เกิดขึ้น คอมเซเว่น มั่นใจว่าจะเป็นโอกาสขยายตลาดสมาร์ทโฟนแบรนด์หัวเว่ย และแบรนด์อื่นได้อีกมาก” นายสุระ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าเป้าหมายรายได้ปี 2562 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 27,913 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2562 มีรายได้จากการขายและให้บริการอยู่ที่ 7,618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสุระ ระบุถึงกรณีความกังวลประเด็นเรื่องยอดขายไอโฟนที่ลดลง โดยในส่วนของคอมเซเว่นเอง ยอดขายยังคงมีการเติบโตได้ดีอยู่ เนื่องจากบริษัทมีการปรับกลยุทธ์มาขายสินค้ารุ่นเก่ามากขึ้น ขณะที่ปีนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ราว 300 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาเพิ่มเติมซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมีสาขาจำนวน 847 สาขา จะขยายสาขาของแฟรนไชส์เป็น 130 สาขา,สาขา Kingkong Shop อีก 30 สาขา และที่เหลือจะภายใต้แบรนด์บานาน่า ปัจจุบันบริษัทมีสาขารวมทั้งสิ้น 646 สาขา นอกจากนี้บริษัทยังคงมองหาโอกาสเข้าซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง