ลงต่อ

สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยวันทำการก่อนหน้า

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ กลับมาปรับตัวลดลงและแย่กว่าภูมิภาค โดยดัชนีตลาดฯปิดที่ระดับ 1609.79 จุด -17.12 จุด หรือ -1.05% ด้วยวอลุ่มซื้อขาย 4.70หมื่นลบ. นำลงโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -4.8% ปิโตรฯ-2.95% มีเดีย -2.39% และนักลงทุนต่างชาติกลับมาขาย -1.51พันลบ.

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Slightly Negative และคาดดัชนีฯ ลงต่อ แนวรับ 1600/1595 จุด แนวต้าน 1620/25 จุด ปัจจัยถ่วงตลาด มาจากการวิตกต่อ Tech War หลังสหรัฐฯ พยายามชักชวนประเทศอื่นๆ บอยคอตการซื้อสินค้ากับหัวเว่ย และการเมืองในประเทศ ยังคงมีความไม่ชัดเจนหลังพรรคปชป. ยังไม่มีมติชัดเจนว่าจะเข้าร่วมกับพรรคพปชร. หรือไม่ รวมถึงอาจมีกระแสกดดันนอกสภา ประเด็นการห้ามหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทำหน้าที่ ส.ส. จนกว่าศาลรธน. จะมีคำตัดสิน  ไฮไลท์วันนี้อยู่ที่ สหรัฐฯ : รายงานสินค้าคงทน  ไต้หวัน: 1Q19E GDP ครั้งสุดท้าย

ประเด็นสำคัญวันนี้

การเมืองไทย: ประเด็นสำคัญวานนี้ 1) ศาล รธน. มีคำสั่งให้หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หยุดปฎิบัติหน้าที่สส.จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยคุณสมบัติกรณีการถือหุ้นสื่อไปแล้ว 2) พรรคปชป. มีมติส่งคนชิงตำแหน่งประธานสภาฯ โดยจะมีการหารือผู้เหมาะสม รวมถึงการหารือเกี่ยวกับการเข้าร่วมรัฐบาลด้วยในวันนี้ แต่คาดว่ายังไม่ได้ข้อสรุปเพราะกระบวนการประสานงานยังไม่เสร็จสิ้น 3) การเปิดรัฐพิธีสมัยประชุมสภาจะเริ่มต้นวันนี้ ส่วนกระบวนการต่อไปวันพรุ่งนี้ คือการปฎิญาณตนเป็น ส.ส. และสรรหาประธานวุฒิสภา เรา
คาดว่าการเมืองจะเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ (+กลุ่มอิงนโยบายของรัฐบาลเดิม โครงสร้างพื้นฐาน นิคมฯ ไฟฟ้า)

Tech War: สหรัฐฯยังคงเดินหน้ากล่อมให้ประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ เกาหลีใต้ ฯลฯ ดำเนินการเช่นเดียวกันกับสหรัฐฯ ที่ให้บริษัทฯไม่ซื้อสินค้ากับหัวเว่ย โดย รมว. ต่างประเทศ ปอมปิโอ ยืนยันว่า หัวเว่ยทำงานให้กับรัฐบาลจีน และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ขณะที่จีนยืนยันไม่เจรจาการค้ากับสหรัฐฯ หากไม่มีความจริงใจแก้ไขในสิ่งที่ผิดพลาด

ยุโรป: IHS Markit เปิดเผยดัชนี ผจก. ฝ่ายจัดซื้อ PMI รวมภาคการผลิตและบริการยุโรโซน เดือน พ.ค. สูงสุดรอบ 2 เดือน ที่ 51.6 (Vs เม.ย. 51.5) สอดคล้องกับมุมมอง ผจก. กองทุนทั่วโลกที่คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซน ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และแนะนำซื้อคืนตลาดหุ้น EU

UK: ค่าเงินปอนด์อ่อนค่า หลังมีข่าวนายกฯ เทเรซ่า เมย์ อาจประกาศลาออกวันนี้ หลังจากต้องเผชิญแรงกดดันทั้งจากพรรคฝ่ายค้านและพรรครัฐบาล อันเนื่องมาจากความล้มเหลวในการผลักดันข้อตกลง Brexit ให้ผ่านการอนุมัติของสภา ขณะที่นายบอริส จอห์นสันอดีต รมว. ตปท. ประกาศชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพรรคอนุรักษ์นิยมแทน

กลยุทธ์

        ตั้งรับบริเวณแนวรับ 1600 จุด โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำ เก็งกำไรระยะสั้น (Trading Buy ทางเทคนิค)

        +หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEM STEC AOT

        -หุ้นโมเมนตัมบวก FANCY ASIAN KAMART ลบ DELTA GPSC PTTGC BANPU EA

        Derivatives: ปรับคำแนะนำเป็นเปิด Short S50M19 โดยมีเป้าทำกำไร 1060 / 1055 จุดและ Stop order 1075 จุด