ชะลอตัวต่อ

ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ PTT PTTGC และ CPN ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,609.79 จุด (-17.12 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign -1,512.73 ลบ. TFEX Net -12,114 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ -1,894 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ มาร์กิตเผยดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการยูโรโซนในพ.ค.แตะระดับ 51.6 สูงสุดรอบ 2 เดือน

+MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทยมีผลปลายเดือนพ.ค.

-ราคาน้ำมัน WTI ลดลงแรง 5.7% -$3.51 ปิด $57.91 ต่อบาร์เรล กังวลสงครามการค้าฉุดอุปสงค์น้ำมัน  ส่งผลลบเชิงจิตวิทยากับหุ้นกลุ่มพลังงาน

- ดาวโจนส์ -286.14 จุด -1.11% กังวลสงครามการค้าและตัวเลขเศรษฐกิจซบ

-สหรัฐรายงานยอดขายบ้านใหม่ในเดือนเม.ย. -6.9%mom สู่ระดับ 673,000 ยูนิต ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด -2.8%

- ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการสหรัฐในเดือนพ.ค.ต่ำสุดรอบ 3 ปีที่ 50.9 จากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน

-สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง สวนทางคาดการณ์

-กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มบัญชีรายชื่อบริษัทจีนที่จะถูกขึ้นบัญชีดำ เพื่อสั่งห้ามซัพพลายเออร์ของสหรัฐไม่ให้ทำธุรกิจด้วย

-กกร.จ่อปรับลดคาดการณ์ส่งออก GDP ไทยปีนี้ เบื้องต้นประเมินว่า GDP จะโตเหลือเพียง 3.4-3.5% จากที่เคยประเมินไว้ที่ 3.7-4.0%

-ส.อ.ท.เผยเม.ย.62 ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ลดลงครั้งแรกในรอบ 4 เดือน ยอดส่งออกรถยนต์ -7.52% มาที่ 67,114 คัน ต่ำสุดในรอบ 24 เดือน

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.40 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.91 บาท/US

*24 พ.ค. เปิดประชุมรัฐสภา 25 พ.ค. โหวตเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อจากความกังวลสงครามการค้าที่มีท่าทียืดเยื้อและบานปลาย  ราคาน้ำมันที่ร่วงลงแรง 5.7% โดยมีความหวังจากใกล้ช่วงเวลา MSCI เพิ่มน้ำหนักตลาดหุ้นไทย และปัจจัยการเมืองในประเทศที่มีความหวังในการมีรัฐบาลใหม่ คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,595-1,622 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH INTUCH DTAC หุ้นออก : DELTA
• ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV BLA EASTW  PSH TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
  มีผล 28 พ.ค.
• กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก (CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW SPA) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH)

หุ้นรายงานพิเศษ

PRM ราคาปิด 5.90 บาท Bloomberg consensus 9.10 บาท “มุมมองบวก”

• รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 240 ลบ. +64%YoY โดยมีรายได้ 1,189 ลบ. +17%YoY จากการเพิ่มเรือต่อใหม่ 2 ลำ และการควบรวมงบการเงินจากเข้าซื้อ Big Sea เมื่อ 2H61 ในสัดส่วน 70% นอกจากนี้ธุรกิจเรือเก็บน้ำมันมีอัตราการใช้บริการเต็ม 100% จาก 1Q61 ที่มีอัตราการใช้บริการที่ 76% เนื่องจาก IMO2020 ทำให้ผู้ค้าน้ำมันหันมากักเก็บน้ำมันมากขึ้น
• เรามีมุมมองบวกสำหรับแนวโน้ม 2Q62 ที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยมี Key Driver 2 ประการ ดังนี้  1) ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันภายในประเทศ (Domestic Trading) มีสัดส่วนรายได้ 46% โดย ณ ปลาย 1Q62 มีเรือให้บริการทั้งหมด 28 ลำ และในช่วง 2Q62 จะรับเรือลำใหม่และเริ่มให้บริการ 2 ลำ นอกจากนี้ ช่วงเดือน มิ.ย. จะเข้าถือหุ้น Big Sea เพิ่มอีก 10% รวมเป็น 80% และ 2) ธุรกิจเรือเก็บน้ำมัน (Floating Storage Unit: FSU) มีสัดส่วนรายได้ 37% โดย ณ ปลาย 1Q62 มีเรือให้บริการทั้งหมด 5 ลำ และในช่วง 2Q62 จะเริ่มให้บริการเรืออีก 2 ลำ เริ่มดำเนินการแล้ว 1 ลำ เมื่อ 1 พ.ค. และอีก 1 ลำจะเริ่มให้บริการเดือน มิ.ย. พร้อมกับมีการปรับขึ้นค่าบริการขนส่ง แนวโน้มผลประกอบการทั้งปีจะเติบโตจากการควบรวมกับ Big Sea เต็มปี ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดกำไรปี 62 ราว 903 ลบ.

หุ้นมีข่าว   

ORI Analyst Meeting ราคาปิด 6.90 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 10.06 มุมมอง NEUTRAL 

·         กำไรสุทธิในช่วง 1Q62 ที่ 720 ล้านบาท เติบโตสูง 47%YoY  ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับดีจาก %GP เท่ากับ 43.3% ปรับดีขึ้นจาก 39.2% ใน 1Q61 และ %NP เพิ่มขึ้นเป็น 20.9% จาก 19.8% ใน 1Q61 ยอดขาย presale ทำได้ 5,670 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของเป้าทั้งปีที่ 28,000 ล้านบาท จากแผนเปิดขายใหม่ในปีนี้มูลค่ารวม 27,300 ล้านบาทที่มี segment ครอบคลุมทุกระดับราคา (1.6 – 20 ล้านบาทขึ้นไป) แผนเปิดขายบ้านมากขึ้นจากเดิม 4 โครงการมูลค่ารวม 6 พันล้านบาทเป็น 8 โครงการมูลค่ารวม 8 พันล้านบาท ทำให้ผู้บริหารคาดสัดส่วนรายได้โครงการแนวราบปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มจาก 10% เป็น 15% และปลายปีจะมีรายได้ประจำมากขึ้นเนื่องจากมีโรงแรมสร้างเสร็จและเริ่มดำเนินการในทำเลทองหล่อและศรีราชา

·         ความเห็น ฝ่ายวิจัยยังมีมุมมอง Neutral ต่อปัจจัยพื้นฐานที่ผลประกอบการยังมีศักยภาพในการเติบโตจาก backlog แข็งแกร่ง 3.4 หมื่นล้าน เป้ารายได้ปีนี้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาทมี backlog ค่อนข้างปลอดภัย 73%   Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 เฉลี่ย 2,944 ล้านบาท -12%YoY IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 7.2% ระดับสูงน่าสนใจ

·    RATCH (ราคาปิด 62.00 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 63.98) เตรียมทุ่มงบ 3 หมื่นล้านบาท ลุยลงทุนโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 1,400 เมกะวัตต์ พร้อมเปิดทางพันธมิตรร่วมหุ้น เตรียมเซ็นสัญญา PPA กับกฟผ.ภายในมิ.ย.นี้ เล็งปรับแผนลงทุนเน้นสาธารณูปโภคพื้นฐานเพิ่ม ส่งซิกปี 62 กำไรโตมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ 5,587 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·    BCPG (ราคาปิด 16.80 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 18.38) ชงบอร์ดอนุมัติแผน 5 ปีใหม่ ก.ค.นี้ คาดงบลงทุน 5 หมื่นล้านบาท เล็งประมูลโซลาร์ฟาร์มมาเลย์ 500 เมกะวัตต์ ส.ค. 2562 ซุ่มเจรจาลงทุนไบโอแมสญี่ปุ่น 40 เมกะวัตต์ วางเป้า 3-5 ปี ดันไบโอแมสพุ่ง 100 เมกะวัตต์ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·    HUMAN เตรียมปิดดีลซื้อกิจการ “บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์” ภายในไตรมาส 3/62 หลังเซ็น LOI แล้ว มั่นใจทั้งปีกำไรสุทธิโต 20-25% อานิสงส์ออกสินค้าใหม่ที่มีมาร์จิ้นสูง ทุ่มงบลงทุนปีนี้กว่า 150 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อกิจการและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·    SCI ชนะประมูลโครงการก่อสร้างติดตั้งสะพานเหล็กข้ามทางรถไฟของ รฟท. มูลค่ารวม 110 ล้านบาท คาดจะเริ่มดำเนินงานได้ประมาณส.ค.นี้ ผบห. มั่นใจผลงานปีนี้ดีกว่าปีก่อน โชว์ตุนแบ็กล็อก 750 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·    FPT เตรียมเซ็นสัญญาลูกค้ารายใหญ่ ขนาดมากกว่า 5 หมื่นตารางเมตร ในช่วงสัปดาห์หน้า พร้อมเล็งขายอาคารโรงงาน 10 อาคาร มูลค่ารวมประมาณ 500-600 ล้านบาท เข้ากอง FTREIT ภายใน ก.ย.นี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·    BANPU เดินหน้าศึกษาซื้อแหล่งผลิตก๊าซในสหรัฐเพิ่ม 2-3 แห่ง คาดปลายปี 2562 ได้ข้อสรุป 1-2 แห่ง คาดใช้เงินราว 200 ล้านดอลลาร์ต่อแห่ง ส่องผลงานไตรมาส 2/2562 สดใส ปริมาณการผลิตถ่านหิน-ก๊าซเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มั่นใจครึ่งปีหลังปริมาณขายไตรมาส 3-4/2562 สุดพีค (ที่มา : ทันหุ้น)

·    MJD เผยปัจจุบันมี Backlog ในมือ 1.4 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ระบุมี 7 โครงการ รอรับรู้ปีนี้ ล่าสุดเตรียมโอนคอนโดมิเนียมโครงการแรกปีนี้ "มาเอสโตร 19 รัชดา 19-วิภา" มูลค่า 1.7 พันล้านบาทให้ลูกค้า ย้ำเป้ายอดขายทั้งปี 1.1 หมื่นล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·    U ตั้งบ.ย่อยแห่งใหม่ในโรมาเนีย เพื่อปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทรองรับทำธุรกิจโรงแรมในยุโรป (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

·    MM จะใช้เงินสูงสุด 100 ลบ. เพื่อซื้อหุ้นคืนจากตลท.ไม่เกิน 20 ล้านหุ้น (ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์)