กกพ. พร้อมแล้ว เปิดรับยื่น 'โซลาร์ภาคประชาชน' 24 พ.ค. นี้

กกพ. พร้อมแล้ว เปิดรับยื่น 'โซลาร์ภาคประชาชน' 24 พ.ค. นี้

“ศิริ” ประชุมร่วมกับ “กกพ.” เตรียมความพร้อม การรับยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ “กฟน.” และ “กฟภ.” ได้ตั้งแต่ 24 พ.ค.เป็นต้นไป

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการรับสมัครประชาชนผู้สนใจที่จะเข้าร่วม โครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ ในการอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ กฟน. และ กฟภ. โดยได้เน้นย้ำเรื่องความรวดเร็ว และความโปร่งใสในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศเป็นการทั่วไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“เราคาดว่า โครงการโซลาร์ภาคประชาชน จะได้รับความสนใจจากประชาชนค่อนข้างมาก ผมจึงได้เข้ามาร่วมประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อซักซ้อมการเตรียมความพร้อมในกระบวนการรับยื่น และให้นโยบายว่า ในการพิจารณาที่ต้องอำนวยความสะดวก และรวดเร็ว โปร่งใสอย่างเต็มที่” นายศิริ กล่าวระหว่างการแถลงข่าว ภายหลังการเข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ผู้บริหาร กฟน. และผู้บริหาร กฟภ.

ภายหลังจากที่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิในการยื่นเข้า โครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 และได้เผยแพร่สู่สาธารณชนแล้วนั้น โดยมุ่งเน้นสนับสนุนให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน ประเภทครัวเรือนขนาดเล็กได้ผลิตไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท๊อป) เพื่อใช้เอง และนำส่วนเกินที่เหลือจากการใช้ ไปขายต่อให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) โดยมีกำลังผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ (kWp) กำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้า ที่ 1.68 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้ารวม 10 ปี

นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ กกพ. ได้ออกระเบียบ ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาสำหรับภาคประชาชน พ.ศ. 2562 พบว่า มีประชาชนเข้ามาสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มอบหมาย และเน้นย้ำให้ สำนักงาน กกพ. ได้ดำเนินจัดทำช่องทางการสื่อสารความรู้ ตลอดจนการให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการให้องค์ความรู้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ และให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเกิดผลประโยชน์จากการลงทุนให้ได้มากที่สุด

“ผมเองเห็นว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่จะได้รับ คำนึงถึงความคุ้มทุนที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะดูจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นหลัก อยากให้มีการเปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการและช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้าในบ้านของตนเองก่อน เช่น หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมากอยู่แล้ว ระยะเวลาในการคุ้มทุนย่อมเร็วกว่า กล่าวคือ เน้น ผลิตเองใช้เอง ก็เหมือนไม่ต้องซื้อไฟฟ้าได้ประหยัดค่าไฟไปประมาณ 3.80 บาทต่อหน่วย เหลือถึงขายไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 1.68 บาทต่อหน่วย อายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 10 ปี” นายเสมอใจ กล่าว

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงาน กกพ. เปิดเผยว่า สำหรับการเปิดรับสมัครประชาชนผู้สนใจ เพื่อยื่นขอขายไฟฟ้า จะเป็นการยื่นผ่านระบบออนไลน์ในช่องทางเว็บไซต์ ของ กฟน. ที่ https://spv.mea.or.th และ เว็บไซต์ของ กฟภ. ที่ https://ppim.pea.co.th ซึ่งได้มีออกแบบมาเป็นช่องทางเฉพาะเพื่อรองรับการอำนวยความสะดวกและรวดเร็วให้กับประชาชนผู้สนใจที่จะเข้ามาสมัคร โดยจะเปิดรับยื่นความจำนงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป และหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี 2562 โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย จะทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณา ทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้า รวมทั้งส่งผลให้ผู้สมัครได้รับทราบทางอีเมลที่ได้แจ้งไว้ ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป และลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไป

“ในปี 2562 โครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ได้กำหนดเป้าหมายปริมาณรับซื้อรวม 100 เมกกะวัตต์ แบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 30 เมกกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 70 เมกกะวัตต์ โดย กฟน. ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ สำหรับพื้นที่ดำเนินการของ กฟภ. ประกอบด้วย 74 จังหวัด ที่อยู่นอกเหนือจากพื้นที่ดำเนินการของ กฟน. โดยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 02-207-3599 หรือติดตามจากเว็บไซต์ สำนักงาน กกพ. ที่ www.erc.or.th ซึ่งจะมีลิงก์ (Link) เชื่อมโยงเข้าระบบการลงทะเบียนกรอกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ (Online) และดาวน์โหลด (Download) เอกสารที่เกี่ยวข้อง และอัพโหลดเอกสาร (Upload) ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดได้ในเว็บไซต์ของ กฟน. และเว็บไซต์ กฟภ. ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม นี้ และหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี 2562”