สงครามการค้าไม่คืบหน้า และอาจต้องรอการประชุม G20

สงครามการค้าไม่คืบหน้า และอาจต้องรอการประชุม G20

เดินทัพทางไกล” ส่งสัญญาณจีนพร้อมทำสงครามการค้าระยะยาว

รมว.คลังสหรัฐฯ ยืนยันไม่มีกำหนดเดินทางไปจีนเพื่อเจรจารอบใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง พูดถึงการเดินทัพทางไกล (การรบแบบตั้งรับ และจำเป็นต้องถอยทัพหลายครั้งของเหมาเจ๋อตุง ซึ่งเกิดขึ้นในการสู้ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีกำลังน้อยกว่า กับรัฐบาลจีน และใช้เวลา 15 ปีกว่าจะกลับมาชนะสงคราม) ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการทำสงครามการค้าอย่างยืดเยื้อ เป็นปัจจัยลบกดดันระยะสั้น และทำให้การคลี่คลายหรือกลับมาเจรจากันใหม่ อาจจะเป็นหลังการพบกันของผู้นำสองชาติในการประชุม G20 ปลายมิ.ย.

อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์ และปิโตรเคมี ได้รับผลลบ ขณะนิคมอุตสาหกรรมเป็นบวก เราประเมินอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อมมากที่สุดจากสงครามการค้า ขณะที่ผลกระทบต่อยานยนต์และปิโตรเคมีจะอยู่ในระดับที่จำกัดกว่า เพราะไม่โดนขึ้นภาษีโดยตรง (แต่อาจกระทบทางอ้อม จากความต้องการใช้เม็ดพลาสติก) ขณะที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ได้ประโยชน์จากแนวโน้มการย้านฐานการผลิตมายังไทย ในเชิงกลยุทธ์ เรายังมองกลุ่มอาหาร ได้ประโยชน์เชิงต้นทุนจากราคาสินค้าเกษตรที่เป็นอาหารสัตว์ อยู่ในระดับต่ำ หุ้นที่เราชอบคือ AMATA และ CPF

คาดเห็นการปรับเป้าส่งออกลง หลัง 4 เดือนแรกติดลบ 1.86% กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเม.ย. ต่ำสุดในรอบ 24 เดือน และหดตัว 2.57% YoY ทำให้ภาพรวม 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) หดตัว 1.86% จากการชะลอตัวของคู่ค้าโดยเฉพาะจีนและยุโรป ทำให้มีความเป็นไปได้ที่หน่วยงานต่างๆจะเริ่มออกมาทยอยปรับเป้าหมายส่งออกปี 2562 ลงจาก 3-4% โดยมีแนวโน้มที่การเติบโตจะออกมาต่ำกว่า 2% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่เป็นลบ ได้แก่ ยานยนต์และส่วนประกอบ (-3.97% YoY) และคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (-10.63% YoY) ขณะที่กลุ่มที่มีแนวโน้มขายตัวได้ดี ได้แก่สินค้าเกษตรและอาหาร

เก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI แนะนำเลือกหุ้นที่มีการถือครองน้อย บริโภคในประเทศหรือปลอดภัย โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ GUNKUL*, SSP*, AQUA* / หุ้นเข้า MSC Global (+) INTUCH, RATCH, DTAC / MSCI Small cap (+) AEONTS, AAV, BLA, EASTW, PSH, TASCO

ภาพรวมกลยุทธ์: กรอบการฟื้นตัวช่วงสั้นจำกัดที่ 1630 จุด การเก็งกำไรยังเน้นกำหนดจุดตัดขาดทุน และเก็งกำไรเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, EASTW* เก็งกำไร ICHI* (เป้า 5.00 ตัดขาดทุน 4.60), เก็งกำไร AEONTS* (เป้า 220 ตัดขาดทุน 195)

แนวรับ 1620 / แนวต้าน : 1628-1630 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

FED Minutes –เนื้อหาระบุว่า คณะกรรมการเฟดจะยังคง “อดทน” ในการดำเนินในโยบายการเงิน เพื่อรอดูพัฒนาการทางเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนทิศทางในเร็วๆ นี้

การคว่ำบาตรทางธุรกิจมีแนวโน้มขยายวงกว้าง – ประธานาธิบดี ทรัมป์ เตรียมขึ้นบัญชีดำบริษัทจำหน่ายกล้องวงจรปิด 5 รายใหญ่ของจีน ข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชน

ยอดส่งออกตกต่ำสุดในรอบ 2 ปี – พาณิชย์รายงานยอดส่งออกของไทย เดือน เม.ย. หดตัวลง 2.57% Y-Y ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยได้รับผลกระทบหลักมาจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อและสินค้าบางรายการมีเทคโนโลยีที่ล้าหลัง

JMART – บริษัทคาดไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากการแบนหัวเหว่ย ทั้งนี้เรามองผลการดำเนินงานปีนี้ JMT และ SINGER อาจฟื้นได้โดดเด่นกว่า

ประเด็นติดตาม: 23 พ.ค. –FOMC meeting minutes, 23 พ.ค. – US manufacturing PMI, 24 พ.ค. – คณะกรรมการเฟด 4 ราย แถลงมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)