เวิลด์แบงก์เผยโลกพลาดเป้าพัฒนาไฟฟ้า

รายงานของธนาคารโลกและสถาบันระหว่างประเทศอื่นๆ เผยแพร่วานนี้ (22 พ.ค.) ระบุว่าเมื่อปี 2558 สมาชิกสหประชาชาติทุกประเทศเห็นพ้องรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ข้อภายในปี 2573 ครอบคลุมหลากหลายสาขา อาทิ การศึกษา สภาพอากาศ ความเสมอภาคทางเพศ และการมีไฟฟ้าใช้

เป้าหมายกำหนดให้ประชาชนมีไฟฟ้าใช้อย่างทั่วถึง เพิ่มการใช้พลังงานทดแทน ขยายอัตราเพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า รวมถึงเป้าหมายอื่นๆ แต่ 11 ปีผ่านไปยังมีสัญญาณความล้มเหลวให้เห็น

เมื่อปี 2560 ราว 89% ของโลกมีไฟฟ้าใช้ เพิ่มจาก 83% ในปี 2553 โดยบังกลาเทศ เคนยา และเมียนมาก้าวหน้ามาก

แต่รายงานเตือนว่า ถ้ารัฐบาลไม่เดินหน้าให้เร็วกว่านี้ ภายในปี 2573 ยังคงมีประชากรอีก 650 ล้านคนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ 90% ในกลุ่มนี้อยู่ในภูมิภาคซับซาฮาราของแอฟริกา

ยิ่งไปกว่านั้น ประชากรราว 3 พันล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในเอเชียและซับซาฮารา เข้าไม่ถึงการปรุงอาหารที่สะอาด ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรง ตัวเลขแทบไม่เปลี่ยนแปลงจาก 7 ปีก่อน ตามแนวโน้มที่เป็นอยู่ เท่ากับว่า ประชากร 2.2 พันล้านคนยังอยู่ในสถานการณ์นี้ไปจนถึงปี 2573

ขณะเดียวกันสัดส่วนแหล่งที่มาของพลังงานทดแทน เช่น ลม หรือพลังงานแสงอาทิตย์จากทั้งหมดอยู่ที่ 17.5% เมื่อปี 2559 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 16.6% เมื่อปี 2553 แต่ในปี 2560 ความร้อนที่ได้จากแหล่งทดแทนมีเพียง 9% เท่านั้น และที่นำมาใช้ในภาคขนส่งก็มีแค่ 3.3% ในสหรัฐและบราซิลส่วนใหญ่มาจากเชื้อเพลิงชีวภาพ