ฟื้นตัว...หลังแรงกดดันสงครามการค้าสูงสุดในช่วงสั้น

ฟื้นตัว...หลังแรงกดดันสงครามการค้าสูงสุดในช่วงสั้น

แรงกดดันสงครามการค้าสูงสุดแล้วในช่วงสั้น

หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจชะลอคำสั่งห้ามบริษัทสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับหัวเหว่ยออกไป 90 วันถึง 19 ส.ค.นี้ ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะผู้ผลิตชิปปรับขึ้นราว 2-3% ทั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบการในกลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาหลายรายที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้าในรอบหน้า ได้รวมกันส่งหนังสือถึงทางการคัดค้านการเก็บภาษีเพิ่มเพราะจะสร้างภาระให้ผู้บริโภคสหรัฐฯ ทำให้เราประเมินสงครามการค้าผ่านจุดกดดันที่สุดในช่วงสั้น

ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอและการเมืองที่ไม่ชัดเจนอยู่ในคาดการณ์ของตลาดแล้ว สศช.รายงาน GDP ไตรมาส 1/62 ขยายตัว 2.8% ต่ำสุดในรอบ 17 ไตรมาส และปรับลดคาดการณ์เหลือ 3.6% ทั้งนี้ธปท.มีแนวโน้มปรับลดประมาณการ GDP ในการประชุมวันที่ 26 มิ.ย.เช่นกัน ซึ่งเราประเมินการชะลอตัวของ GD Pจากปัจจัยภายนอก รวมถึงความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล อยู่ในความคาดหมายของตลาดแล้ว

แรงเก็งกำไรหุ้นเข้า MSCI แนะนำเลือกหุ้นที่มีการถือครองน้อย หลังจากประกาศรายชื่อหุ้นที่จะมีผลต่อการคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่ในวันที่ 13 พ.ค.62 และมีผลในช่วงปลายเดือน ทำให้เริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย รวมถึงในกลุ่มหุ้น MSCI ทั้งนี้ เรามองหุ้นใหญ่ที่อยู่ในโฟกัสของตลาดอาจไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก แต่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่เข้า MSCI Small Cap อาจมีโอกาสในการเก็งกำไรที่มากกว่า จากการที่นักลงทุนถือครองในระดับต่ำ

ฟื้นตัว...เน้นเลือกหุ้นบริโภคในประเทศหรือปลอดภัย โดยยังคงความระมัดระวังในการเก็งกำไรเชิงตั้งรับ และรอจังหวะทยอยสะสม GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, AMANAH, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ GUNKUL*, SSP*, AQUA* / หุ้นเข้า MSC Global (+) INTUCH, RATCH, DTAC / MSCI Small cap (+) AEONTS, AAV, BLA, EASTW, PSH, TASCO

ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องจากวานนี้ แต่กรอบการเคลื่อนไหวยังจำกัดแถว1620-1630 จุด การเก็งกำไรยังเน้นกำหนดจุดตัดขาดทุน และเก็งกำไรเชิงตั้งรับ // หุ้นแนะนำวันนี้ PSH, EASTW* เก็งกำไร TU* (เป้า 18.10 ตัดขาดทุน 17.00)

แนวรับ 1600-1605 / แนวต้าน : 1628-1630 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

OCED ลดเป้า GDP โลก โตต่ำสุดในรอบ 30 ปี – OCED ปรับลดเป้าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าลงสู่ระดับ 3.2% และ 3.4% ตามลำดับ ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี ผ่านผลกระทบของสงครามการค้า

สศช.ปรับลด GDP ปี 62 – สศช.ปรับลดเป้าการเติบโตเศรษฐกิจไทย หรือ GDP ปี 62 ลงเหลือ 3.6% ในกรอบ 3.3-3.8% จากประมาณการเดิมที่ 3.5-4.5% โดยปรับลดเป้าการส่งออกลงเหลือโตเพียง 2.2% จากเดิมที่ 4.1% หลังเผชิญสงครามการค้า

สินเชื่อแบงก์พาณิชย์หดตัวในไตรมาส 1/62 –ชะลอลงมาอยู่ที่ 5.6% จากไตรมาสก่อนที่ 6%โดยเป็นการชะลอตัวตามิสนเชื่อธุรกิจของลูกหนี้บางรายในภาคอุตสาหกรรมและบริการที่หันไประดมทุนผ่านตราสารหนี้มากขึ้น

เฟดเตือนความเสี่ยงสงครามการค้า – ประธานเฟดสาขาบอสตันเตือนสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจในภาพรวม

กลุ่มรับเหมา - ผู้รับเหมาจีนเสนอราคาต่ำ คว้า 3 งานประมูลทางด่วนพระราม 3 วงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท

IRPC –กำไรมีโอกาสย่ำแย่ต่อเนื่องเหลือในระดับ 6 พันล้านบาท ขณะที่ concensus มอง 9.3 พันล้านบาท ประเมินหุ้นมีความเสี่ยงถูกปรับราคาเหมาะสมเหลือ 4-5 บาท

ประเด็นติดตาม: 22 พ.ค. – ตัวเลขนำเข้า-ส่งออก ของไทย, 23 พ.ค. –FOMC meeting minutes, 23 พ.ค. – US manufacturing PMI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)