ปชป. โยนกก.บห.คุยพรรคอื่นเอาข้อมูลตัดสินใจ ร่วม-ไม่ร่วมรบ. เล็งเคาะมติ 23 พ.ค.นี้

ปชป. โยนกก.บห.คุยพรรคอื่นเอาข้อมูลตัดสินใจ ร่วม-ไม่ร่วมรบ. เล็งเคาะมติ 23 พ.ค.นี้

“ปชป.” โยน “กก.บห.” คุยพรรคอื่น เอาข้อมูลตัดสินใจ ร่วม-ไม่ร่วมรบ. เล็งเคาะมติ 23 พ.ค.นี้ “ราเมศ” เชื่อไม่มี ส.ส.แหกมติพรรค เหตุข้อบังคับพรรคมัดไว้

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.62 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นัดประชุมส.ส.จำนวน 52 คน เป็นครั้งแรก โดยมีวาระพิจารณาแจ้งข่าวเพื่อเตรียมความพร้อมต่อการเข้าร่วมการประชุมรัฐสภานัดแรก วันที่24 พฤษภาคม และ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาฯ จำนวน2 คน ในวันที่ 25 พฤษภาคม ทั้งนี้ยังมีวาระหารือต่อการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองอื่น โดยเป็นการประชุมลับเฉพาะสมาชิก

จากนั้นเวลา 17.45 น. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่าที่ประชุม ส.ส. มีมติให้คณะกรรมการบริหารพรรค เป็นผู้เจรจากับพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจต่อทิศทางทางการเมืองของพรรค ว่าจะเข้าร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ส่วนจะเจรจากับพรรคการเมืองใดบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค จากนั้นในวันที่ 23 พฤษภาคม พรรคจะนัดประชุมกลุ่มกรรมการบริหารพรรค และกลุ่มของส.ส. อีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการประสานงานมาพิจารณาและตัดสินใจเป็นมติพรรคว่าจะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดหรือไม่

“ส.ส.ของพรรคแจ้งกับที่ประชุม โดยฝากให้คำนึงถึงปัจจัยสำคัญต่อการร่วมงานเป็นรัฐบาล คือ ยึดประโยชน์ประเทศ ประชาชน และทำให้ประเทศชาติเดินหน้า ให้สถารบันหลักของชาติมีความมั่นคง ตามหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงให้ได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ โดยการตัดสินใจดังกล่าวจะไม่ยึดประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นหลัก ทั้งที่ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยติดต่อหรือประสานงานกับพรรคการเมืองใดมาก่อน ส่วนที่มีข่าวว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เดินสายพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นแล้วนั้น ผมไม่ทราบ แต่เชื่อว่าการพูดคุยโดยตัวบุคคลนั้นเป็นเรื่องปกติทางการเมือง” นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ กล่าวโดยเชื่อว่าการประชุมวันที่ 23 พฤษภาคม จะได้ข้อยุติและความชัดเจนต่อทิศทางทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ และมติของที่ประชุมร่วมระหว่างส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรค ดังกล่าว ส.ส. จะปฏิบัติตาม เพราะตามข้อบังคับของพรรคประชาธิปัตย์ กำหนดไว้ชัดเจนว่า การเข้าร่วมรัฐบาล หรือทิศทางทางการเมืองใดๆ ต้องเป็นไปตามมติพรรค แม้ส.ส.จะมีเอกสิทธิ์ในการลงมติเรื่องใดๆ แต่ต้องไม่อยู่เหนือมติของที่ประชุมร่วมพรรคประชาธิปัตย์ เบื้องต้นตนมั่นใจว่าส.ส.ของพรรคเสียงไม่แตกแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามถึงการปลุกกระแสสังคมกดดันให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคฝั่งประชาธิปไตย นายราเมศ กล่าวโดยเชื่อว่าพรรคจะรับฟังเสียงสะท้อนจากสังคมหลายด้าน แต่การตัดสินใจต่อทิศทางทางการเมืองนั้นต้องมีกระบวนการพิจารณาที่ชัดเจน โดยยึดตามระเบียบและข้อบังคับของพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการประชุมส.ส.ของพรรค ว่า มีตอนหนึ่งที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงประเด็นที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งโพสต์ข้อความพาดพิงถึงผู้ใหญ่ในพรรคที่เคยเคารพมากกว่า 30 ปี ที่มีพฤติกรรมแทรกแซงการเลือกหัวหน้าพรรค โดยแหล่งข่าวระบุถึงคำพูดของนายชวน ตอนหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่ามีข้อเท็จจริงที่มีบุคคลภายนอกพยายามแทรกแซงกิจการภายในพรรคด้วยเงินผ่านการซื้อตัวคนในพรรค พร้อมเรียกร้องไปยัง สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อย่าให้อิทธิพลของเงินจากภายนอกอยู่เหนือเรื่องภายในพรรค พร้อมกับขอให้สมาชิกพรรคทำสิ่งที่ตรงไปตรงมา และยึดมั่นในแนวทางรวมถึงหลักการของพรรคประชาธิปัตย์

“เราต้องหาทางป้องกัน เพราะหากมีอิทธิพลภายนอก ต้องการมีคนของตัวเองมาตัดสินใจให้พรรคไปร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลได้ง่าย จะผิดวัตถุประสงค์ ทั้งนี้การเลือกห้วหน้าพรรคไม่ใช่ว่าจะสั่งได้ เพราะขึ้นอยู่กับมติ ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ผมพูดหลายครั้งว่าการเลือกหัวหน้าพรรคให้แยกระหว่างการเลือกหัวหน้า และการตัดสินใจร่วมรัฐบาล ดังนั้นผมไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องที่คุณพีระพันธ์ุพูดไป ส่วนที่มีผู้ใหญ่ อย่าง ม.ล.จุลเจิม ยุคล พูดถึงอีแอบในพรรคเพื่อเปลี่ยนแปลงสถาบันนั้น ผมจะทำหนังสือไปถึงท่านเป็นการส่วนตัว ว่าสิ่งที่ท่านพูดนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงและไม่ยุติธรรมกับคนของพรรค” แหล่งข่าวระบุคำพูดของนายชวน ระหว่างกล่าวในที่ประชุม