จับตาสภาพัฒน์รายงาน GDP

โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดยังคงเป็นความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ PTT AOT และ GLOW ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,608.11 จุด (-6.64 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign -1,394.36 ลบ. TFEX Net -13,158 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +455 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมัน WTI ปิดลบสลับบวก สุทธิเพิ่มขึ้นแตะ $63.10 ต่อบาร์เรลหลังจากกลุ่มโอเปก และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงปลายปีนี้

+กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งแบน "หัวเว่ย" ชั่วคราวซึ่งจะมีผลจนบังคับใช้จนถึงวันที่ 19 ส.ค.นี้

+Conference Board เผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ (Leading Economic Index : LEI) ในเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน +0.2% สู่ระดับ 112.1 

+ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102.4 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

+EU เผยพร้อมเจรจาการค้าสหรัฐ หลังทรัมป์ชะลอเก็บภาษีรถยนต์ สื่อเผยสหรัฐใกล้บรรลุข้อตกลงยกเลิกภาษีเหล็ก อลูมิเนียมจากแคนาดา-เม็กซิโก

-ดาวโจนส์ลดลงในคืนวันศุกร์และคืนวันจันทร์จากสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นจากที่ต่างฝ่ายได้ปรับเพิ่มอัตราภาษีสินค้านำเข้าและในรูปแบบอื่นในการคว่ำบาตรค่ายมือถือ

-ใกล้วันประชุมรัฐสภาครั้งแรกในวันที่ 25 พ.ค.แต่ตำแหน่งประธานสภาฯและการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลงตัว

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.56 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.86 บาท/US

*จับตาสภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ในช่วง 1Q62 หากต่ำกว่าระดับ 3.7% ใน 4Q61 ถือเป็นการชะลอตัวของศก.ไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบกว้างจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่ไม่แน่นอนของผลการเจรจา รวมทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศที่ยังไม่ลงตัวในการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดีมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปิดบวกและข่าวล่าสุดที่สหรัฐยกเลิกคำสั่งแบนหัวเว่ยชั่วคราว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,590-1,617 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH INTUCH DTAC หุ้นออก : DELTA
• ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV BLA EASTW  PSH  TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
  มีผล 28 พ.ค.
• หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI  ROBINS BJC CENTEL ERW

หุ้นรายงานพิเศษ

*Disclaimer : บล.โกลเบล็ก เป็นผู้จัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้วันแรกตลาด mai / Service

VL (ราคา IPO 1.75 “ไม่จัดอันดับคำแนะนำ” ราคาเหมาะสม 2.58)

จำนวนหุ้น IPO  280 ล้านหุ้น แบ่งเป็น หุ้นเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น และหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 80 หุ้น โดยเสนอขายที่ราคาหุ้นละ 1.75 บาท ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค.2562

ราคา IPO ที่ 1.75 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกาไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings ratio: P/E ratio) ประมาณ 21.88 เท่า

บริษัท วี.แอล. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด มหาชน ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่ง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ ซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าทางเรือทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความสามารถให้บริการขนส่งเป็นอันดับ 4 ของอุตสาหกรรม มีจุดเด่นด้านกองเรือที่มีน้ำหนักบรรทุก 35,081 DWT จำนวนเรือทั้งหมด 12 ลำ อายุกองเรือเฉลี่ยราว 16 ปี การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในการขยายกองเรือและซ่อมบำรุง ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ผลการดำเนินงานงวด 1Q62 มีกำไรสุทธิ 23. 42 ล้านบาท เติบโต 63% จาก 14.33 ล้านบาทในงวด 1Q61 โดยมีอัตรากำไรสุทธิ ปรับดีขึ้นสู่ 12.6% จาก 8.5% ในงวด 1Q61

หุ้นมีข่าว   

·      PTT Analyst Meeting (ราคาปิด 46.50 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 54.81 ) ผบห.ได้ให้แนวโน้มผลการดำเนินงานดังนี้ 1) คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันของโลกจะเพิ่มขึ้นราว 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวันสู่ 100.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และมองว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ $60-70/bbl  2) คาดราคาผลิตภัณฑ์กลุ่มโอเลฟินส์และกลุ่มอะโรเมติกใน 2Q62 มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบ QoQ เนื่องจากอุปทานถูกจำกัดในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงตามแผนงาน 3) มีแผนขยาย LNG Terminal ให้รองรับก๊าซได้ในอนาคตอีก 7.5 ล้านตันจากปัจจุบันที่ 11.5 ตันเพื่อรองรับปริมาณการใช้ก๊าซที่เพิ่มขึ้นตามแผน PDP2018 (เพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซ)

·      ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานจากราคาน้ำมันที่คาดว่าจะสามารถทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อได้ และแนวโน้มราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 62 เฉลี่ยที่ 128,329 ลบ +7%YoY

·      VPO-UVAN เฮ! รับข่าวดีคว้าโควตาขายน้ำมันปาล์มดิบให้กฟผ. โดย VPO ได้สิทธิขาย 2,000 ตัน ฟาก UVAN ได้ออเดอร์ขาย 3,000 ตัน หลังกฟผ.ประกาศผลการประมูลราคาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบล็อตแรก 1 แสนตัน ตามนโยบายภาครัฐ มีโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบที่ผ่านเกณฑ์การเสนอราคา 15 ราย รวม 45,300 ตัน (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      BGC (ราคาปิด 11.10 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 13.60) เตรียมปิดดีลซื้อกิจการธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง 2 ราย ในปีนี้ มูลค่าลงทุน 100-1,000 ล้านบาท คาดเข้ามาเสริมแกร่งธุรกิจ ขณะที่กอดเงินสดในมือ 2.4 พันล้านบาท ส่วนผลงาน Q2 ปีนี้ คาดกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า Q2 ปีก่อน ลั่นเป้ายอดขายปีนี้โต 5-10% (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      IVL ประกาศจัดตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ Mobility Business สนับสนุนกลุ่มยางรถยนต์-ความปลอดภัยยานยนต์-วัสดุเฉพาะทางปัจจุบันกลุ่ม มีรายได้จากการขายสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีโรงงานผลิต 16 แห่ง ใน 9 ประเทศ และมีพนักงานกว่า 6,000 คน (ที่มา : ทันหุ้น)

·      PTTEP เปิดตัวบริษัทย่อยเออาร์วี ให้บริการด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ พร้อมมุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่จะตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม เล็งลงทุนระยะแรก (2562-2564) ประมาณ 1,600 ล้านบาท (ที่มา : ทันหุ้น)

·      TQM แบไต๋ Q2/2562 ฟอร์มแจ่มกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน รับพอร์ตลูกค้าโตต่อเนื่อง แถมปักเป้าปีนี้ยอดขายโตทะลุเป้า 14% จากปีก่อน หลังเบี้ยรถพุ่งแรง-ได้ประกันชีวิตหนุน ส่วนดีลร่วมมือพาร์ตเนอร์ ปั้นโมเดลไฟแนนซ์
โบรกเกอร์เพิ่ม คาดชัดเจน Q3 นี้ (ที่มา : ทันหุ้น)

·      + SONIC ลงทุน 140 ลบ.ซื้อที่ดิน-เครื่องจักรในโครงการปิ่นทองแลนด์ จ.ชลบุรี

·      + SAMART ลงนามสัญญาซื้อขายระบบ Aerodrome Simulator กับ "วิทยุการบินแห่งประเทศไทย" มูลค่า 321 ลบ.