หวั่นสหรัฐ-จีนขัดแย้งการค้าฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

หวั่นสหรัฐ-จีนขัดแย้งการค้าฉุดดาวโจนส์ปิดลบ

อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวแถลงในวันนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ตัดสินใจชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อรถยนต์ และอะไหล่รถยนต์จากต่างประเทศออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้สหรัฐมีเวลามากขึ้นในการเจรจาการค้ากับยุโรป และญี่ปุ่น

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันศุกร์ (17พ.ค.)ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนยังคงกังวลต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ตลาดได้รับปัจจัยบวก จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจชะลอการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ และอะไหล่รถยนต์จากต่างประเทศออกไปอีก 6 เดือน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์  ปรับตัวลง 98.68 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 25,764 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500  ร่วง 16.79 จุดหรือ 0.58% ปิดที่ 2,859.53 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วง 81.76 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 7,816.29 จุด

นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสหรัฐมีพฤติกรรมรังแกจีนในระหว่างการเจรจาการค้า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้การเจรจาประสบความล้มเหลว

“ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มต้นการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ในการเจรจาการค้าและเศรษฐกิจระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและสหรัฐรอบที่ 11 แต่น่าเสียใจที่ว่า สหรัฐได้เพิ่มความขัดแย้งทางการค้าแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเจรจา” นายเฟิงกล่าว

 ทั้งนี้ การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความล้มเหลวในสัปดาห์ที่แล้ว โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้า ขณะที่สหรัฐได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% ส่งผลให้จีนทำการตอบโต้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.