'การบินไทย' ไตมาส1/62กำไร 445 ลบ.ลดวูบ83.6%เหตุรายได้หด-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม

'การบินไทย' ไตมาส1/62กำไร 445 ลบ.ลดวูบ83.6%เหตุรายได้หด-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม

'การบินไทย'ไตรมาส1/62กำไรสุทธิ 445.44 ล้านบาท ลดลง 83.6 %จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,716.92 ล้านบาท เหตุ รายได้ลดลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้้น พร้อมเดินหน้า ตามแผนฟื้นฟูธุรกิจปี 2561-2565 ต่อเนื่อง

นายณัฐพงศ์ สมิตอำไพพิศาล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)หรือ THAI แจ้งว่า ไตรมาส1/2562 บริษัทมีกำไรสุทธิ 445.44 ล้านบาท ลดลง 83.6 %จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,716.92 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้ลดลง 6.9 % อยู่ที่ 4.97 หมื่นล้านบาท จากการแข่งขันที่สูงทำให้รายได้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง และบริษัทมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 989 ล้านบาท เพราะในไตรมาสนี้บริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เครื่องบิน มีค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายอื่นๆ


สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานอนาคต โดยอุตสาหกรรมการบินโลกในช่วง 9 เดือนที่เหลือของปี 2562 ยังมีแนวโน้มเติบโต แต่ว่าจะเติบโตต่ำกว่าปีก่อน ทั้งจากการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินก้ จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงอย่างชัดเจน รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้ผลกระทบจากสงครามการค้าที่ชัดเจนขึ้น จะส่งผลให้ปริมาณการส่งออกของไทยชะลอลงในปีนี้ สำหรับราคาน้ำมันดิบคาดการณ์ว่าราคาจะปรับเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยกอปรกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาน้ำมันเฉลี่ยในรูปเงินบาททั้งปี 2562 มีแนวโน้มอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปี2561


รวมถึงยังมีความท้าทายรอบด้านทั้งจากปัจจัยภายนอกและในประเทศ ที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ไทยได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่อาจทวีความรุนเรงขึ้น ความเสี่ยงด้านกูมิรัฐศาสตร์และความไม่แน่นอนทางการเมืองในภูมิภาคสำคัญ เช่น Brexi สถานการณ์ในอิตาลี และการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ เป็นต้น ประกอบกับความไม่แน่นอนของกระบวนการและผลของการเลือกตั้งของประเทหที่จะมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและนักลงทุน ตลอดจนการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศในระยะข้างหน้า

สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมการบินของไทยในปี 2562 นี้ มีแนวโน้มขยายตัวแต่ชะลอลงจากปี 2561 โดยคาดว่าการแข่งขันในปีนี้จะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เนื่องจากประเทศสามารถปลดธงแดงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สายการบินของไทยจึงสามารถขยายเส้นทางบินได้กว้างขวางขึ้นและเพิ่มจำนวนเที่ยาบินได้มากขึ้น นอกจากนี้ ความดีบหน้าการแก้ปัญหามาตรฐานการบินพลเรือนของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (FAA) เพื่อยกระดับการบินพลเรือนของไทยจาก Category 2 กลับขึ้นเป็น Category 1 นั้น ขณะนี้ FAA ได้เข้ามาสอบทานการประเมินความพร้อมของ ไทยเมื่อวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2562 โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขทั้ง 26 ประเด็นให้สมบูรณ์ก่อนจะยื่นขอรับการตราจอช่างเป็นทางการเพื่อนำประเทศกลับเข้าสู่ Category 1 ในอนาคตอัน ใกล้


ทั้งนี้ในปี 2562 บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนฟื้นฟูธุรกิจปี 2561-2565 ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมุ่งนันการสร้าง
รายได้จากธุรกิจเสริมมากขึ้นภายใด้โครงการ"มนตรา" ซึ่งเป็นโครงการฟื้นฟูการบินไทยแบบเร่งด่วนโดยมีแผนการดำเนินการที่สำคัญดังนี้ คือ ดำเนินการขายเครื่องบินที่ปลดระวาง โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการขายเครื่องบินแล้ว 6 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการขายเครื่องบินการหารายได้เพิ่มโดยมุ่งเน้น การเพิ่มรายได้ในธุรกิจที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับการบิน เช่น การเพิ่มรายได้ของฝ่ายครัวการบิน และการขายสินค้าออนไลน์โดยร่ามมือกับพันธมิตรทางการค้าที่อยู่ในระบบตลาดสินถ้าออนไลน์ และส่งเสริมการขายผ่าน Digital Marketing เป็นต้น


รวมถึงการขายหุ้นในบริษัทร่วม และบริษัทย่อย ที่ ไม่สนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจหลัก และการจัดการที่ดิน อาคารสำนักงานที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยดำเนินการขายอสังหาริมทรัพย์ที่หมดความจำเป็นในการไช้งานรวม 9 แห่ง ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ในประเทศ 2 แห่ง และในต่างประเทศ 7 แห่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ในการประชุมเมื่อวันที่ 22 เม.ย.(2562) ได้อนุมัติการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ปีนัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนการขาย และ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2562 ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปื 2562 ของบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้โอนทุนสำรองตามกฎหมาpจำนวน 2,691 ล้านบาท และสำรองส่วนล้ำมูลค่าหุ้นจำนวน 25,545 ล้านบาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสมของบริษัท