ลุ้นดีดตัวตามเพื่อนบ้าน

ลุ้นดีดตัวตามเพื่อนบ้าน

SET Index วานนี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาค โดยปัจจัยหลักที่กดดันตลาดยังคงเป็นความกังวลเรื่องการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

ขณะที่หุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กดดันตลาดได้แก่ PTTGC GULF และ TRUE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,633.84 จุด (-6.29 จุด) Volume 5.4 หมื่นลบ. จาก Foreign -2,679.24 ลบ. TFEX Net -9,206 สัญญา ตลาดตราสารหนี้ +3,975 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ ราคาน้ำมัน WTI +74 เซ็นต์+1.2% ปิด $61.78 ต่อบาร์เรล หลังกลุ่มก่อการร้ายโจมตีท่อส่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย สร้างความกังวลด้านอุปทาน

+ ดาวโจนส์ +207.06 จุด +0.82% จากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น  หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น หุ้นโบอิ้งและแคทเธอร์ พิลลาร์บวก 2% และ 1.8% ตามลำดับ ซึ่งชี้วัดสภาวะการค้าที่ดีของสหรัฐ

+ วานนี้ในหลวงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 250 ส.ว.และรายชื่อบุคคลสำรอง 50 คน รวมทั้งมีการออกพ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภาตั้งแต่ 22 พ.ค.เป็นต้นไป

+ ครม.เห็นชอบลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ส่งเสริมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน จาก 20% เหลือ 10%

- นักวิเคราะห์เตือนบอนด์ยีลด์จะพุ่งหากจีนหยุดซื้อพันธบัตรสหรัฐตอบโต้สงครามการค้าส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอื่นๆปรับขึ้นตาม สร้างความเสียหายต่อศก.สหรัฐ

- ธปท.รอประเมินผลกระทบสถานการณ์การค้าสหรัฐฯ-จีนในมิ.ย. หลังประเมินเบื้องต้นส่งผลเสียมากกว่าผลดี เพราะกระทบต่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว

- ม.หอการค้า คาดสงครามการค้ารอบใหม่ ฉุดส่งออกปีนี้เหลือโต 2.2-4.6% จากเดิมคาด 3.2-4.6%

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD -2.14 หมื่นลบ. ค่าเงินบาท 31.5 บาท/US

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีลุ้นดีดตัวตามตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นต่างประเทศหลังจากลดลงติดต่อกัน 2 วันทำการจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ขณะที่ปัจจัยการเมืองมีความคืบหน้าช่วยหนุนตลาด  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,627-1,650 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

- ดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้า : RATCH  INTUCH  DTAC หุ้นออก : DELTA

- ดัชนี MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า : INTUCH AAV  BLA  EASTW  PSH  TASCO หุ้นออก : MC  PRINC  THCOM  TFG  VGI  VIBHA
มีผล 28 พ.ค.

- หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ : SE-ED COL LPN PSH SPALI  ROBINS BJC CENTEL ERW

- หุ้นได้ประโยชน์จากฤดูร้อน : เครื่องปรับอากาศ (SNC KOOL) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EA BCPG SSP GUNKUL) เครื่องดื่ม(TACC SAPPE ICHI  OISHI  OSP  CBG

หุ้นรายงานพิเศษ

JUBILE Analyst Meeting (ราคาปิด 15.70 “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 18.90)

รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 53 ลบ. เติบโต 13%YoY ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นราว 13%YoY สู่ 386 ลบ.  ส่วนใหญ่มาจากการยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากสาขาเดิม 10% และสาขาที่เปิดใหม่ระหว่างปี 61 ราว 7% โดยบริษัทสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิได้ใกล้เคียงเดิมที่ 48% และ 14% ตามลำดับ 

บริษัทยังคงเป้าการเติบโตรายได้ที่ 5-8% จากการเติบโตจากการใช้ data analysis ช่วยในการออกผลิตภัณฑ์ให้ได้ตรงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น และบริษัทยังคงแผนเปิดสาขาที่ 8 สาขาแบ่งเป็น แบรนด์ Jubilee 5 สาขา และแบรนด์ Forevermark 3 สาขา โดยปัจจุบันได้เปิดสาขา Jubilee ใหม่ทั้งสิ้น 2 สาขา ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.พะเยา และ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ป่าตอง จ.ภูเก็ต

ความเห็น กำไร 1Q62 คิดเป็น 27% ของประมาณการทั้งปีที่ราว 194 ล้านบาท  และเรามีมุมมองเชิงบวกจากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดูสดใสขึ้น จึงมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการ

หุ้นมีข่าว   

·      กสทช.เคาะจัดสรรคลื่น 700 MHz จำนวน 3 ใบอนุญาต แบ่งเป็นใบละ 10 MHz ในราคา 17,584 ล้านบาท คาด 3 ค่ายมือถือ “TRUE-DTAC-ADVANC” ยื่นขอรับจัดสรรวันที่ 19 มิ.ย.62 ฟากอนุกรรมการฯเยียวยาทีวีดิจิทัลเตรียมประชุม 16 พ.ค.นี้ คาดชดเชย 7 ช่องกว่า 3,100 ล้านบาท (ที่มา : ข่าวหุ้น)

·      SPA (ราคาปิด 12.90  “ถือ” ราคาเหมาะสม 14.00) รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 59 ลบ. +5%YoY แต่ต่ำกว่าที่เราคาด 16%  ถึงแม้ว่ารายได้รวมจะเติบโตถึง 23%YoY สู่ 345 ลบ. จากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นถึง 16 สาขาเมื่อเทียบกับช่วง 1Q61  (Let’s Relax 9 สาขา , Stretch me by Let’s Relax 3 สาขา และสาขาแฟรนไชส์อีก 4 สาขา)  แต่มีต้นทุนในการให้บริการที่เพิ่มขึ้นเข้ามากดดันทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก 37% ใน 1Q61 เหลือ 33% และอัตรากำไรสุทธิก็ปรับลดลงเช่นกันจาก 20% ใน 1Q61 เหลือ 17%

·      JKN (ราคาปิด 7.60 "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 10.00 ) รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 80 ลบ. +14%YoY เติบโตตามรายได้จากการจำหน่ายสิทธิ์คอนเทนต์ที่เติบโตถึง 26%YoY สู่ 412 ลบ. แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 293 ลบ. และยอดขายตปท. 118 ลบ. เนื่องจากบริษัทเริ่มมียอดขายต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนใน 1Q62 ที่ 14 ลบ. ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวลดลงจาก 20.4% ใน 1Q61 เหลือ 19%

·      AUCT (ราคาปิด 7 บาท “ซื้อ”  ราคาเหมาะสม 8 บาท) รายงานกำไร 1Q62 เท่ากับ 59.6 ลบ. +43.4%YoY +17%QoQ โดยมีรายได้หลักเท่ากับ 198 ลบ. +23%YoY -2.7%QoQ รายได้เติบโตทุกกลุ่มการประมูล ขณะที่ %GPM ทำได้ดีขึ้นมาที่ระดับ 54.6% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 53% และ 52% ตามลำดับ ส่วน %SG&A ทำได้ดีขึ้นเช่นกัน ปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ 17.4% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 21% จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ส่งผลให้ %NPM เพิ่มขึ้นเป็น 30% จาก 1Q61 และ 4Q61 อยู่ที่ระดับ 25.6% และ 25% ตามลำดับ คิดเป็น 29% ของประมาณการทั้งปี และเตรียมปรับประมาณการเชิงบวก แนะนำ “ซื้อ”

·      +BEM ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกคำร้องของกทพ.ซึ่งขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการส่งผลให้กทพ. มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัทใน 2 ส่วนได้แก่ 1) ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 4,368 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วน ขั้นที่ 2 ของต้นเงินค่าเสียหาย จำนวน 3,776 ล้านบาท คิดเป็นรายวันนับตั้งแต่ 1 เม.ย. 2551 จนกว่า กทพ. จะชำระเสร็จสิ้น  2) ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทาง เป็นรายวันนับตั้งแต่ 1 เม.ย. 2551 เป็นต้นไป รวมทั้งชำระดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญา

·      JKN (ราคาปิด 7.60 "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 10.00 ) รายงานกำไรสุทธิ 1Q62 ที่ 80 ลบ. +14%YoY เติบโตตามรายได้จากการจำหน่ายสิทธิ์คอนเทนต์ที่เติบโตถึง 26%YoY สู่ 412 ลบ. แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 293 ลบ. และยอดขายตปท. 118 ลบ. เนื่องจากบริษัทเริ่มมียอดขายต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนใน 1Q62 ที่ 14 ลบ. ทำให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวลดลงจาก 20.4% ใน 1Q61 เหลือ 19%

·      AP Analyst Meeting (ราคาปิด 7.30 ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 8.58) 1Q62 มีกำไรสุทธิ 1,078 ล้านบาท +25%yoy เนื่องจากรายได้ +42%yoy จากการโอนแนวราบเป็นหลัก %GP 32.9% ลดลงจาก 34.3% ใน 1Q61  ตาม GP คอนโดฯลดลง %SG&A เพิ่มเป็น 17.8% จาก 15.6% ใน 1Q61 ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโครงการร่วมทุน (Life อโศกและ Rhythm เอกมัย) +95%yoy ส่งผลให้ %NP ลดเหลือ 13.8% จาก 13.8% ใน 1Q61 ด้านยอดขาย presale เติบโตดี ณ ปลายเม.ย. 62 ทำได้ 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 38% ของเป้าทั้งปีที่ 3.9 หมื่นล้านบาท Backlogณ ปลายเม.ย.62 ที่จะโอนปีนี้เท่ากับ 1.67 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 64% ของเป้ารายได้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท

·      SEAFCO โชว์กำไร Q1/2561 พุ่งกระฉูด 129.19% ทำนิวไฮต่อที่ 120.08 ล้านบาท หลังก่อสร้างงานเพียบ อานิสงส์งานในมือสูง ผู้บริหารชี้งานเอกชนยังเข้าต่อเนื่อง เตรียมเจรจารายใหญ่ ยังไม่ห่วงงานรัฐ พร้อมประกาศปันผล 0.05 บาท (ที่มา : ทันหุ้น)

  • HMPRO (ราคาปิด 16.00 บาท Bloomberg consensus 98 บาท ) ลมร้อนหนุน Q2 โตต่อเดินเกมผุดสาขาหนุนยอดขาย แถมรับอานิสงส์ปัญหาฝุ่นหนา หนุนเครื่องฟอกอากาศยอดขายพุ่ง พร้อมลุ้นกำลังซื้อกลับมาหลังจัดตั้งรัฐบาล ส่วนการเติบโตของรายได้คงเป้าเดิม 5-7% พร้อมเดินหน้าเปิดสาขาต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)
  • RATCH (ราคาปิด 63.00 บาท Bloomberg consensus 02 บาท ) ส่งซิก Q2 รับทรัพย์ส่วนแบ่งกำไร จากโครงการโรงไฟฟ้าเบิกไพร โคเจนเนอเรชั่น ในเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมเดินหน้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าธุรกิจพลังงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างมูลค่ากิจการให้ถึง 200,000 ล้านบาท หรือ 10000 เมกะวัตต์ ในปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
  • SISB มั่นใจผลงานไตรมาส 2/2562 สวย นักเรียนตบเท้าเข้าเรียนเพียบ หนุนเป้ารายได้ทั้งปีโต 15-20% แย้มเดินหน้าขยายโรงเรียนในไทยและต่างประเทศ เล็งกัมพูชา-เวียดนาม คาดชัดเจนกลางปีหน้า พร้อมควงซิตี้แบงก์โรดโชว์นักลงทุนสถาบันสิงคโปร์ โบรกแนะ ซื้อ เคาะเป้า 84 บาท (ที่มา ทันหุ้น)
  • BCH อวดงบไตรมาส 1/2562 ฟันกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท โต 15.60% ฟากรายได้รวม 2,105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.20% ตามฐานคนไข้เดิมและการขยายฐานคนไข้เงินสดขยายตัว ทั้งในส่วนของชาวไทยและชาวต่างชาติของ รพ.ในเครือ(ที่มา : ข่าวหุ้น)
  • PTG มาตามนัดกำไรไตรมาส 1/2562 พุ่ง 92.99% อยู่ที่ 519 ล้านบาท จากรายได้การขายที่เพิ่มขึ้นเป็น 28,655 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ค่าการตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น ดันกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 33% คงเป้า EBITDA ปีนี้ 40-50%(ที่มา : ทันหุ้น)