'ดัสกร ทองเหลา' ร้องกองปราบหลังถูกเบี้ยวค่าเหนื่อยร่วม 10 ล้านบ.

'ดัสกร ทองเหลา' ร้องกองปราบหลังถูกเบี้ยวค่าเหนื่อยร่วม 10 ล้านบ.

“ดัสกร ทองเหลา” อดีตแข้งทีมชาติ ยกทีมสีหมอก ร้องกองปราบหลังถูกเบี้ยวค่าเหนื่อยร่วม 10 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 พ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายดัสกร ทองเหลา อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมด้วย นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมงานสตาฟโค๊ชสโมสรฟุตบอลสีหมอก เอฟซี กว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ธีรพจน์ คงหนู สว.สอบสวน กก.5 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมหลังสโมสรฟุตบอลดังกล่าว แต่กลับไม่ยอมทำตามสัญญาโดยการค้างค่าจ้างเงินเดือนค่านักฟุตบอลและทีมงานในสโมสรมานานร่วม 5 เดือน รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท โดยนำหลักฐานเป็นเอกสารสัญญาการว่าจ้างมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณา

นายดัสกร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงประมาณปลายเดือน พ.ย. 2561 ตนได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมเป็นนักฟุตบอลอาชีพของสโมสรดังกล่าว ซึ่งเป็นทีมในไทยลีก 3 ในระยะสัญญา 1 ปี แต่นับจากที่ตนได้เป็นนักฟุตบอลของสโมสรดังกล่าวแล้วกลับยังไม่เคยได้รับค่าจ้างตามที่ตกลงกันไว้เป็นระยะเวลานานร่วม 5 เดือน และไม่ใช่เพียงแค่ตนเท่านั้น เหล่าบรรดานักฟุตบอล และเจ้าหน้าที่ทีมงานสตาฟโค๊ช คนอื่นๆอีกกว่า 40 คน ของทีมก็ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างด้วยเช่นกัน เมื่อทวงถามก็บอกว่าจะพยายามหาเงินมาจ่ายให้ ขณะนี้กำลังรอเงินทุนจากต่างประเทศ ก่อนจะเงียบหายไป ซึ่งที่ผ่านมาตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆ ต้องยอมควักกระเป๋าตนเองเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าอาหาร ที่พักโรงแรม ค่าเดินทาง ในการเดินทางไปแข่งขัน เพื่อให้ตนเองสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้ต่อ

นายดัสกร กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการที่ตนเลือกเซ็นสัญญาร่วมกับดังกล่าวนั้น เนื่องจากตนเห็นว่ามีทีมงานสตาฟโค๊ชที่รู้จักสนิทสนม และเป็นอดีตทีมชาติหลายคน อีกทั้งท่านประธานสโมสรเองก็มีประวัติโปรไฟล์ดี เป็นนักธุรกิจใหญ่ และมีความน่าเชื่อถืออยู่ใน จ.สุพรรณบุรี จึงตัดสินใจเข้าร่วมทีมด้วย และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ที่ผ่านมาตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆได้เคยไปยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก่อนจะมีคำสั่งให้ยุบทีมจากระบบการแข่งขันทุกรายการ พร้อมทั้งมีการเจรจากับประธานสโมสร ซึ่งท่านประธานเองก็รับปากว่าจะดำเนินการจ่ายเงินค่าจ้างที่ติดค้างให้กับทุกคน แต่เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายเดือนกลับยังไม่มีการดำเนินการใดๆตามที่กล่าวอ้าง ด้วยเหตุนี้ตนและนักฟุตบอลคนอื่นๆจึงได้รวมตัวกันมาเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทางตำรวจกองปราบในวันนี้ โดยหลังจากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

“สโมสรฟุตบอลดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแค่นักฟุตบอลคนไทยเท่านั้นยังมีนักฟุตบอลชาวต่างชาติ อีก 2 คน มีชาวญี่ปุ่น 1 คนและ ชาวนามิเบีย อีก 1 คน ซึ่งทั้ง 2 คนเบื้องต้นทราบว่าได้มีการยื่นเรื่องร้องต่อทางฟีฟ่าไปบ้างแล้ว ซึ่งหากยังไม่มีการแก้ไขเกรงว่าวงการฟุตบอลไทยจะได้รับความเสื่อมเสีย และในอนาคตนักฟุตบอลชาวต่างชาติอาจจะไม่กล้ามาค้าแข้งในเมืองไทย” นายดัสกร กล่าว

ด้านพนักงานสอบสวน เบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทุกข์ไว้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐาน ก่อนประมวลเรื่องราวทั้งหมดส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป