วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 พ.ค.62)
ราคาน้ำมันดิบปรับลด จากความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่จะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจีนประกาศเพิ่มการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 62 เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีนเป็นวงเงินกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน
+ ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดด้านอุปทาน หลังซาอุดิอาระเบียเผยว่ามีเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย 2 ลำรวมอยู่ในเรือบรรทุกน้ำมัน 4 ลำที่ถูกโจมตีนอกน่านน้ำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างความกังวลต่อการส่งออกน้ำมันดิบ เนื่องจากเหตุเกิดใกล้ช่องแคบ Hormuz ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญในการส่งออกน้ำมันดิบ
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) คาดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน 7 แหล่งหลักของสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 83,000 บาร์เรลต่อวันในเดือน มิ.ย. 62 แตะระดับ 8.49 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ของประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศจีน
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีแรงหนุนจากอุปสงค์ของประเทศบังกลาเทศ และอุปทานที่ปรับตัวลดลงจากการที่โรงกลั่นในภูมิภาคเริ่มเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุง