สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 6-10 พฤษภาคม 2562

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ วันที่ 6-10 พฤษภาคม 2562

เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงขายจากนักลงทุนสถาบันและต่างชาติ

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

เงินบาทแข็งค่าทดสอบระดับ 31.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ ท่ามกลางสัญญาณที่ตึงเครียดขึ้นของประเด็นทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนเงินบาทบางส่วนหลังตลาดกลับมาเปิดทำการจากช่วงวันหยุดยาว อย่างไรก็ดี  เงินบาทอ่อนค่าลงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์หลังผลการประชุมกนง. แต่ฟื้นตัวกลับมาแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือนได้ช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าผิดหวัง ประกอบกับนักลงทุนยังคงรอติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด

- ในวันศุกร์ (10 พ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 31.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.04 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 พ.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-17 พ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.40-31.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในประเทศ น่าจะอยู่ที่สถานการณ์ทางการเมือง ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระหว่างสัปดาห์ ประกอบด้วย สำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนพ.ค. ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออก ยอดค้าปลีก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย. ตัวเลขเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ เดือนมี.ค.

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

     - ดัชนีตลาดหุ้นไทยลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,648.69 จุด ลดลง 81% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 17.56% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 50,414.37 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 2.35% มาปิดที่ 357.43 จุด

    - ดัชนีตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงเทขายเกือบตลอดสัปดาห์จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แม้จะได้รับปัจจัยบวกจากประเด็นการเมืองภายในประเทศที่มีความชัดเจนมากขึ้นก็ตาม  อย่างไรก็ดี ดัชนีฯ ลดช่วงลบบางส่วนลงในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนติดตามการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างใกล้ชิด   

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (13-17 พ.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,635 และ 1,620 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,655 และ 1,665 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ ความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/62 ของบริษัทจดทะเบียนไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดระดับสูง และผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนเม.ย. และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนพ.ค. ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/62 ของยูโรโซน ข้อมูลการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ของจีน