เลือกหุ้นรายตัวขณะที่ตลาดยังคงกังวลกับการเมืองและสงครามการค้า

แม้เราเชื่อว่าท่าทีของสหรัฐฯและจีนล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการต่อรองทางการค้า แต่บรรยากาศของการข่มขู่ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 25% ในช่วงสุดสัปดาห์ อีกทั้งการที่จีนยืนยันที่จะดำเนินการตอบโต้หากสหรัฐฯ เก็บภาษี สร้างแรงกดดันต่อภาพรวมการลงทุนและสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลให้เราเริ่มเห็นสัญญาณเงินทุนไหลออกจากเอเชียและตลาดเกิดใหม่

กนง.คงดอกเบี้ยแต่ตลาดมองเป็นสัญญาณลบ คณะกรรมการนโยบายการเงินคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% อย่างไรก็ตามด้วยสัญญาณลบและปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ตลาดตอบรับเชิงลบโดยมองเป็นสัญญาณก่อนการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจที่อาจตามมา

กกต.รับรองส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผลคือจำนวนส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อรวมของกลุ่มพันธมิตร 7 พรรค อยู่ที่ 245 ที่นั่ง ขณะที่พันธมิตรฝั่งพลังประชารัฐอยู่ที่ 253 ที่นั่ง มีโอกาสเดนหน้าเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจเริ่มเดินหน้าต่อ อย่างไรก็ตามการตีความพรป.สส.เกี่ยวกับวิธี่คำนวณส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ คาดว่าจะทำให้เกิดการร้องเรียนกกต. ซึ่งเสี่ยงต่อนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ ทำให้นักลงทุนอาจไม่ตอบรับเชิงบวกต่อการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล และยังรอประเมินสถานการณ์ซึ่งจะทำให้บรรยากาศของการลงทุนซึมและน่าอึดอัดไปอีกระยะได้

เลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย/มีแนวโน้มผลประกอบการดี/ไม่แพง กลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการแข็งแกร่งได้แก่ โรงไฟฟ้า (+492% QoQ, +50% YoY) และอาหาร (+59% QoQ, +17% YoY) ขณะที่การเงิน ได้อานิสงค์จากดอกเบี้ยที่น่าจะต่ำอีกนาน ซึ่งหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ที่ยังน่าสนใจในราคาปัจจุบัน ได้แก่ GPSC, CPF, TU, GFPT, SAWAD, AEONTS, TK, GCAP, PSH, AP, SPALI หรือกลุ่มที่ผลการดำเนินงานมั่นคง อาทิ GUNKUL*, SSP*, AQUA*

ภาพรวมกลยุทธ์: หากหลุดกรอบ 1655-1700 ลงมา จะมี downside ในระดับ 1620-1630 จุด ได้ ดังนั้นเพิ่มความระมัดระวัง และเก็งกำไรเชิงตั้งรับ เน้นเลือกหุ้นที่ยังขึ้นน้อย  และระวังแรงทำกำไรในหุ้นที่ขึ้นมากตั้งแต่ต้นปี // หุ้นแนะนำวันนี้ CPF, GUNKUL*, GPSC (เป้า 66 ตัดขาดทุน 60), SINGER* (เป้า 6.30 ตัดขาดทุน 5.30)

แนวรับ 1646-1650 / แนวต้าน : 1662 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

กนง.คงดอกเบี้ยตามคาด – คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 1.75% ตามเดิม เพื่อรอประเมินผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยที่โตชะลอมากกว่าคาด และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น

กกร.คงกรอบประมาณการเศรษฐกิจไทย – กกร.คงกรอบประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 62 ไว้ตามเดิม โดยคาด GDP ขยายตัวที่ระดับ 3.7-4.0%, ส่งออกขยายตัวที่ 3.0-5.0%, และอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 1.2%

EU ปรับลดคาดการณ์ GDP เยอรมนี – คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ EU ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจประเทศเยอรมนีลงจาก 1.1% เหลือ 0.5% จากแรงกดดันของปัจจัยภายนอกเป็นหลักโดยภาคการผลิตทั่วโลกที่โตชะลอลงจากผลกระทบของสงครามการค้า

ตัวเลขส่งออกจีน – สนง.ศุลกากรจีน (GAC) รายงานตัวเลขส่งออก-นำเข้า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 62 โดยส่งออกเพิ่มขึ้น 5.7% และ นำเข้า เพิ่มขึ้น 2.9% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลเพิ่มขึ้น 31.8% แตะที่ระดับ 6.18 แสนล้านหยวน

 

ประเด็นติดตาม: 9 พ.ค. –ตัวเลขดุลการค้าไทย, 10 พ.ค. – ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ, 9-10 พ.ค. – เจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ + เส้นตายทรัมป์ขู่ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)