"ทีเส็บ สายงานธุรกิจ"เปิดตัวคูหานิทรรศการประเทศไทยปี 62

"ทีเส็บ สายงานธุรกิจ"เปิดตัวคูหานิทรรศการประเทศไทยปี 62

"ทีเส็บ สายงานธุรกิจ"เปิดตัวคูหานิทรรศการประเทศไทยปี 62 เสริมกลยุทธ์เทรดโชว์ ชูการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยควบไอเดียจัดงานเชิงสร้างสรรค์ ดึงงานไมซ์นานาชาติมาจัดในไทย

สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ สายงานธุรกิจ เปิดตัวคูหานิทรรศการประเทศไทย ประจำปี 2562 ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านสถาปัตยกรรมตามแบบวัดไทย ภายใต้แนวคิด “รุ่งอรุณ หรือ New Dawn” เสริมบทบาท Business Hub หรือเวทีการพบปะเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไมซ์ไทยและต่างชาติ ในงานเทรดโชว์ไมซ์นานาชาติ 5 งาน ในปีนี้ 

โดยในงาน ITCM China ณ นครเซี่ยงไฮ้ งาน IMEX Frankfurt ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต งาน IT&CMA ณ กรุงเทพมหานคร งาน IMEX America ณ นครลาสเวกัส และ งาน IBTM World ณ นครบาร์เซโลนา ทีเส็บ สายงานธุรกิจ นำการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย พร้อมไอเดียการจัดงานไมซ์เชิงสร้างสรรค์ ร่วมสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ภาคเอกชนสามารถดึงงานไมซ์จากนานาชาติมาจัดในประเทศไทยได้มากขึ้น

นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการอาวุโส ทีเส็บ สายงานธุรกิจ เปิดเผยว่า “คูหานิทรรศการประเทศไทย ประจำปี 2562 นับว่าเป็นแบบอย่างของการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์ หรือ brand identity ให้กับทีเส็บ ผู้ประกอบการไมซ์ไทย และพันธมิตร โดยจากลักษณะภายนอกของคูหาฯ นั้น จะทำให้ผู้ซื้อและผู้เข้าร่วมงานเทรดโชว์ต่างชาติ สามารถจดจำประเทศไทยได้ทันที รวมทั้งชื่อเสียงในความมีมิตรไมตรีจิต ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความเอาใจใส่ในการต้อนรับต่อผู้มาเยือน”

“งานเทรดโชว์ไมซ์นานาชาติ นับว่าเป็นเวทีพบปะเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่สำคัญที่มีการแข่งขันสูงมาก แต่ละประเทศก็ต่างใช้คูหาชูจุดเด่นประเทศของตนเองมาเป็นจุดดึงความสนใจผู้ซื้อ การสร้างคูหานิทรรศการประเทศไทยที่มีความโดดเด่นนั้น ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดในการดึงความสนใจของผู้ซื้อและลูกค้าต่างชาติ” นางนิชาภา กล่าว

ทั้งนี้ นางนิชาภา ยังได้อ้างถึงข้อมูลสถิติของทีเส็บ สายงานธุรกิจ จากการเข้าร่วมงานเทรดโชว์ไมซ์นานาชาติในแต่ละปีว่า สามารถดึงจำนวนผู้สนใจที่จะมาจัดงานด้านไมซ์ในประเทศไทย หรือ leads ได้เฉลี่ยอย่างน้อย 38-40 ราย ต่อหนึ่งงาน โดยจากการร่วมงาน IMEX Frankfurt งาน IMEX America และ งาน IBTM World ในปีที่ผ่านมา รวมทั้งงาน AIME และงาน ITCM China ในต้นปีนี้ พบว่าการเจรจาธุรกิจเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถดึงงานในภาคการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Meetings and Incentives หรือ MI) ได้จำนวน 10 งาน มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานจากต่างประเทศโดยรวม 2,348 คน ซึ่งคาดว่าจะช่วยอัดฉีดรายได้สู่เศรษฐกิจไทยราว 180 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติจากจำนวน leads ของทีเส็บ สายงานธุรกิจเท่านั้น ไม่รวมจากผู้ประกอบการไมซ์ไทย

นอกจากนี้ การเข้าร่วมงาน ITCM China ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทีเส็บ สายงานธุรกิจ ได้จัดการแสดงสาธิตศิลปะแม่ไม้มวยไทย ตามด้วยการเจรจาธุรกิจแบบ interactive สามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนในธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผู้ผลิตสินค้า ยืนยันการมาจัดงานในประเทศไทยจำนวน 2 งาน มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานจากจีนโดยรวม 800 คน คาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยราว 60.9 ล้านบาท

สำหรับการเข้าร่วมงาน IMEX Frankfurt ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคมนี้ ณ คูหานิทรรศการประเทศไทย ทีเส็บ สายงานธุรกิจ จะนำเสนอการสาธิตวิธีจัดการป้องกันปัญหาเศษอาหารเหลือทิ้งจากการจัดงาน เพื่อสะท้อนให้เห็นศักยภาพของไทยในการจัดงานด้านไมซ์อย่างยั่งยืนและได้มาตรฐานระดับนานาชาติ มุ่งหวังสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเทศไทยในสายตาของชาวยุโรปในมุมมองใหม่ด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และตอกย้ำบทบาทความเป็นผู้นำทางความคิดของทีเส็บภายใต้แบรนด์ Thailand Redefine Your Business Events

ในขณะเดียวกัน ทีเส็บ สายงานธุรกิจ จะนำเสนอการจัดงานไมซ์เชิงสร้างสรรค์ในหัวเมืองไมซ์หลัก หรือ MICE City ทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และพัทยา ภายใต้แนวคิด Thailand 7 Magnificent MICE Themes ประกอบด้วย ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การผจญภัย การสร้างทีมเวิร์ค กิจกรรม CSR และการประชุมเชิงอนุรักษ์ กิจกรรมบรรยากาศชายหาด การจัดงานและกิจกรรมหรูหรามีระดับ และการนำเสนออาหารไทยในทุกการจัดงานที่หลากหลาย ซึ่งทีเส็บร่วมพัฒนากับพันธมิตรไทยในระดับท้องถิ่น เพื่อนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ที่จะดึงดูดงานไมซ์งานต่างประเทศเข้าหัวเมืองไมซ์หลัก 

โดยคูหานิทรรศการประเทศไทยที่งาน IMEX Frankfurt ในปีนี้ จะตั้งอยู่ที่บูธหมายเลข B150 ประกอบไปด้วย ผู้ประกอบการไมซ์ไทยจำนวน 19 ราย และพันธมิตรของทีเส็บ 2 รายได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติ (ไทย) มีนัดหมายเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อต่างชาติจำนวน 285 นัดหมาย คาดว่าจะสามารถดึง leads ได้จำนวนไม่ต่ำกว่า 38 งาน