โครงการพัฒนานิวเคลียร์อิหร่าน ‘ชัวร์หรือมั่วนิ่ม’

นอกจากแนวรบด้านการค้ากับจีนที่ยังหาคำตอบไม่ได้ เรื่องเกาหลีเหนือก็ชะงักงัน สหรัฐทำท่าจะมาเปิดศึกกับอิหร่านอีกแล้ว เมื่อจอห์น โบลตันที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เผยเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่าส่งกองเรือเฉพาะกิจ นำโดยเรือ “ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ชั้นนิมิตซ์ และกองกำลังทิ้งระเบิดไปยังตะวันออกกลาง เพื่อส่งสารให้อิหร่านทราบว่าหากผลประโยชน์ของสหรัฐหรือพันธมิตรถูกโจมตี อิหร่านก็จะต้องเผชิญกับการตอบโต้อย่างไม่ยั้งจากสหรัฐ

หยามกันอย่างนี้  มีหรืออิหร่านจะยอม “ทัสนิม” สำนักข่าวกึ่งทางการของรัฐบาลเตหะราน รายงานอ้างคำพูดเคย์วัน คอสราวีโฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุด ระบุ “แถลงการณ์ของโบลตันเป็นแค่การฉกฉวยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมาทำสงครามจิตวิทยา” เรือบรรทุกเครื่องบินที่ว่า มาถึงเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อหลายสัปดาห์มาแล้ว

แพทริก ชานาฮาน รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยอมรับว่า เขาเป็นคนอนุมัติส่งเรือออกไปเองเพราะได้ข้อมูลข่าวกรองที่เชื่อถือได้ว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) อาจสร้างภัยคุกคามขึ้นได้ แต่จะเป็นอะไรนั้น เขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียด

แล้วข้อมูลที่สหรัฐอ้างมาจากข่าวกรองจริงๆ หรือเป็นแค่เรื่องการเมือง

 เว็บไซต์ข่าวแอ็กเซียส รายงานว่า ที่โบลตันต้องออกเตือนเรื่องภัยคุกคาม ก็เพราะอิสราเอลผู้พยายามโดดเดี่ยวอิหร่านส่งข้อมูลข่าวกรองมาให้ว่า รัฐบาลเตหะรานอาจวางแผนโจมตีสหรัฐหรือพันธมิตรอย่างซาอุดีอาระเบีย หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) บริเวณอ่าวเปอร์เซีย

รายงานของแอ็กเซียส อ้างเจ้าหน้าที่อิสราเอลผู้ไม่เปิดเผยชื่อรายหนึ่ง ระบุ ข่าวกรองยังไม่แน่ชัดแต่อิหร่านเคืองมากเนื่องจากถูกกดดันหนัก

มาร์ค ดูโบวิตซ์ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตย ที่สนับสนุนให้เล่นงานอิหร่าน กล่าวว่า ช่วงไม่กี่วันมานี้เขาได้ยินข่าวกรองหนาหูเรื่องการวางแผนโจมตี เชื่อว่า อิหร่านไฟเขียวให้กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลช่วงเหตุการณ์เมื่อสุดสัปดาห์ เพื่อบิดเบือนความสนใจจากสหรัฐและอิสราเอล

แต่อีกหลายคนก็ไม่แน่ใจกับเจตนาของโบลตันทอม ยูดอลล์สมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ทีมที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศรัฐบาลทรัมป์ กระหายทำสงครามกับอิหร่าน

“คองเกรสต้องหยุดยั้งการเดินหน้าเข้าสู่งสงครามทันที ก่อนที่จะสายเกินไป”ยูดอลล์ทวีตข้อความเตือนสติ

หากยังจำกันได้วันนี้ (8 พ.ค.) เป็นวันครบรอบ 1 ปี ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่รัฐบาลเตหะรานทำให้ไว้กับมหาอำนาจโลก

“ดิฉันคิดว่าโบลตันสร้างเรื่อง เพื่อพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาลที่ใช้นโยบายแข็งกร้าวมากกับอิหร่าน ทั้งๆ ทีี่อิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์” บาร์บารา สลาวิน ผู้อำนวยการโครงการอนาคตอิหร่าน กลุ่มคลังสมองของสภาแอตแลนติกให้ความเห็น

จะว่าไปแล้ว  ตอนนี้อิหร่านไม่พอใจมากขึ้นทุกที เรื่องที่ทำข้อตกลงไปแล้วไม่ได้ประโยชน์โภชน์ผลอะไร สำนักข่าวไอเอสเอ็นเอ รายงานว่า วันนี้ที่เป็นวันครบรอบ 1 ปีการถอนตัวของสหรัฐ ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ก็จะประกาศมาตรการตอบโต้เหมือนกันโดยอาศัยมาตรการที่ระบุไว้ในข้อตกลงว่าอิหร่านสามารถระงับพันธกรณีบางส่วนหรือทั้งหมด หากภาคีอื่นๆ ไม่ปฏิบัติตามในส่วนของตน โดยเฉพาะหากไม่ยอมยุติมาตรการคว่ำบาตร

สหรัฐ เลือกใช้การคว่ำบาตรอิหร่านเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้ทุกประเทศซื้อน้ำมันอิหร่าน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกใหญ่สุด ประกาศให้ไออาร์จีซีเป็นกลุ่มก่อการร้าย ถือเป็นรัฐบาลต่างชาติรายแรกที่ประกาศเช่นนี้

ด้านคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสหประชาชาติ กล่าวว่า อิหร่านยังคงปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่มหาอำนาจยุโรปและพรรคเดโมแครต ผู้พยายามโค่นเก้าอี้ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีหน้ายังคงสนับสนุน