สหรัฐขู่ทบทวนแชร์ข้อมูลชาติพันธมิตรใช้5จี“หัวเว่ย”

สหรัฐขู่ทบทวนแชร์ข้อมูลชาติพันธมิตรใช้5จี“หัวเว่ย”

คำขู่ทบทวนการเชื่อมต่อและแชร์ข้อมูลกับประเทศที่ใช้บริการของ หัวเว่ย อาจมีผลพัวพันถึงพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงไทยและฟิลิปปินส์

เวบไซต์เซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ สื่อฮ่องกง รายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายโรเบิร์ต สเตรเยอร์ รองผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายนโยบายสารสนเทศ การสื่อสารระหว่างประเทศ และไซเบอร์ ว่า สำหรับสหรัฐ การนำ“หัวเว่ย” หรือผู้ค้ารายใดที่ไม่น่าไว้วางใจเข้ามาในระบบสื่อสารระบบ 5จี ถือเป็นความเสี่ยง ซึ่งสหรัฐจะประเมินความสามารถในการแบ่งปันข้อมูล และวิธีการแลกเปลี่ยน โดยไม่มีการแยกแยะความแตกต่างระหว่างการใช้เทคโนโลยีหัวเว่ยในโครงสร้างหลักหรือบางส่วนในโครงข่าย 5จี

นายสเตรเยอร์ แสดงความเห็นเรื่องนี้ก่อนร่วมประชุมเกี่ยวกับแนวทางการใช้เทคโนโลยี 5จี ที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็กและถูกถามถึงอนาคตการสื่อสารและแชร์ข้อมูลกับพันธมิตรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเขากล่าวถึงความเสี่ยงจากกฎหมายข่าวกรองของจีน ที่สามารถบังคับบริษัทต่างๆส่งมอบข้อมูลให้แก่รัฐบาล และเสรีภาพในการแสดงความเห็น การชุมนุมอย่างสงบหรือเสรีภาพทางศาสนาที่อาจจะย่อหย่อน ยกตัวอย่างการสอดแนมของรัฐบาลปักกิ่ง ในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทางตะวันตกไกลของจีน ที่นำไปสู่การกักขังชาวอุยกูร์กว่า 1 ล้านคน

เซาท์ไชนา มอร์นิงโพสต์ ระบุว่า จุดยืนของสหรัฐอาจมีผลพัวพันต่อประเทศไทยและฟิลิปปินส์ สองพันธมิตรในภูมิภาค ที่ใช้อุปกรณ์หัวเว่ยในโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร และกำลังทดสอบอุปกรณ์ของหัวเว่ย ขณะมาเลเซียก็มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้า เพราะไม่ได้มองว่ายักษ์สื่อสารของจีนรายนี้เป็นภัยคุกคามความมั่นคง

ด้านนายทิโมที เฮล์ท นักวิเคราะห์ แรนด์ คอร์เปอเรชัน ที่เคยทำงานกับกองบัญชาการแปซิฟิกของสหรัฐ กล่าวว่า การซื้อระบบ 5จี ของจีน จะทำให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องพึ่งเทคโนโลยีจีนมากขึ้นในอนาคต

“ในแง่การแบ่งปันข่าวกรอง ความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจกระทบ ความสามารถของกองทัพสหรัฐในการให้ความร่วมมือกับกองทัพในภูมิภาค และกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่อต้านภัยก่อการร้ายและอาชญากรแล้ว อาจทำไม่ได้เต็มที่ เพราะสหรัฐไม่มีเทคโนโลยีสื่อสารเครือข่าย 5จี ที่สอดรับกัน”