โนเบิล เร่งโตตั้งเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านใน 3 ปี  

โนเบิล เร่งโตตั้งเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านใน 3 ปี   

โนเบิลฯ นำทีมผู้บริหารใหม่เผยผลประกอบการปี 61 กำไรต่อหุ้นที่ 2.16 บาท  อัตราส่วนกำไรต่อหุ้นสุทธิ สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันที่ 19.2%  ยอดขายเพื่อรอรับรู้รายได้ ของโครงการในอนาคตเพิ่มขึ้น 148% ตั้งเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านใน 3 ปี  

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ผลประกอบการที่เติบโตดีในปี 2561 ประกอบกับแผนกลยุทธ์ 3 ปีจากทีมผู้บริหารชุดใหม่  จะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนที่วางไว้

กลยุทธ์ใหม่จะมุ่งเน้นให้บรรลุเป้าหมายสำคัญต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นยอดขายรวมที่มากกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า และอัตราผลตอบแทนต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 30% โดยจะยังคงรักษาอัตราส่วนของหนี้ต่อทุนสุทธิที่ 1.5 เท่า โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จทั้งหมดโดยการสร้างรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์ที่บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทั้ง 7 โครงการ  และการปรับเพิ่มสัดส่วนของโครงการในเซกเมนต์ที่มีการเติบโตและความต้องการสูง อาทิ เซกเมนต์ที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ระหว่างหนึ่งแสน ถึง หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทต่อตารางเมตร  รวมถึง การจัดการประสิทธิภาพของพอร์ทการลงทุนในที่ดินของบริษัทให้มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในอัตราที่สูงขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างยอดขายในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

นายแฟรงค์ เหลียง รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวว่า นอกจากแนวนโยบายข้างต้นที่คุณธงชัย ได้กล่าวแล้วนั้น  บริษัทฯ ยังมีสินทรัพย์ที่สร้างเสร็จพร้อมเพื่อการขายและส่งมอบมูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท และพื้นที่เชิงพาณิชย์มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวมีเป็นสินทรัพย์ที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน และไม่มีหนี้สินผูกพันอยู่ การเร่งสร้างยอดรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่เรามีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดให้เราได้ในทันที และสามารถสร้างอัตราผลกำไรสุทธิที่เป็นที่น่าพอใจให้กับบริษัทฯ

“ภายใต้โครงสร้างผู้ถือหุ้นและการแต่งตั้งทีมผู้บริหารชุดใหม่ โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จะนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ ประกอบกับ ชื่อเสียงของแบรนด์โนเบิลฯที่โดดเด่น และฐานลูกค้าที่ยังคงภักดีกับแบรนด์ ในการพัฒนาโครงการใหม่ใจกลางเมืองและตลอดแนวรถไฟฟ้า ซึ่งเมื่อรวมกับความแข็งแกร่งของฐานการจัดการทางการตลาดต่างประเทศของ ฟัลครัม โกลบอล เรามั่นใจว่า โนเบิลฯ จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรมนี้อย่างแน่นอน”

นายแฟรงค์ เหลียง ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดจองในไตรมาสที่ 1 ทั้งสามเดือนเป็น 60% เทียบกับยอดจองทั้งปี 2561  เป็นผลทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของโนเบิลฯ  เติบโตขึ้นมากจาก 8% ในปี 2561 เข้าสู่ระดับที่มากกว่า 28% ในไตรมาสนี้  รวมทั้งเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดต่างประเทศของบริษัท โนเบิลฯ อย่างเข้มแข็ง  ซึ่งเป็นผลทำให้ยอดขายเพื่อรอรับรู้รายได้ของโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 75%”

ท้ายที่สุดนายธงชัยได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนการลงทุนในอนาคตว่า สำหรับโครงการในอนาคต บริษัทจะมีการเลือกเฟ้นที่ดินที่จะลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพสูง ติดกับแนวสถานีรถไฟฟ้า โดยเราได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 3 พันล้านบาทต่อปีในการจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติม