'จรุงวิทย์' ชี้คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ มีสูตรเดียวตามกฎหมาย

'จรุงวิทย์' ชี้คำนวณปาร์ตี้ลิสต์ มีสูตรเดียวตามกฎหมาย

เลขาธิการ กกต. ยันยึดสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ สูตรเดียวตามกฎหมาย แจงไม่เสนอสูตรอื่นเข้าวงประชุม แค่หยิบมาศึกษาให้รู้ถึงข้อแตกต่าง เตรียมเอาผิดอาญา ผู้สมัคร ส.ส. ถือหุ้นสื่อ ขาดคุณสมบัติ

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) - พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงการเสนอสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 สูตร ให้คณะกรรมการ กกต.พิจารณา ว่า สำนักงาน กกต. ได้รวบรวมความเห็นทางสังคมที่มีต่อสูตรคำนวณ เพื่อนำมาพิจารณาหาเหตุและผลว่า เหตุใด แต่ละสูตรจึงแตกต่างกัน ไม่ใช่การเสนอความเห็นของสำนักงาน กกต. เพื่อให้ คณะกรรมการ กกต. พิจารณาเลือกสูตรใดสูตรหนึ่งอย่างที่เข้าใจผิดกัน

“ยืนยันว่าการคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อมีอยู่แล้วสูตรเดียว ตามข้อกฎหมายเท่านั้น และเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะต้องคำนวณตามกฎหมายอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเลือกสูตรอื่นๆ และ สำนักงาน กกต. ก็ไม่ต้องเสนอสูตรให้ กกต. อีก โดยวิธีการคำนวณจะทราบพร้อมกัน เมื่อ กกต. ประกาศรับรองผลเลือกตั้งแล้ว” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงการเตรียมดำเนินคดีกับผู้สมัคร ส.ส. ที่ถูกศาลฎีกา สั่งถอนชื่อออกจากการสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากถือหุ้นในกิจการสื่อฯโดยสำนักงาน กกต. จะเสนอให้ กกต. พิจารณา เพื่อดำเนินคดีอาญาทุกรายที่ศาลมีคำสั่งแล้ว ไม่เพียงเฉพาะกรณีของผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ จังหวัดสกลนคร ที่ศาลฎีกามีคำสั่งไปเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมาเท่านั้น กรณีนี้เข้าข่ายฐานความผิด ตามมาตรา 151 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. หากรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ แต่ยังฝ่าฝืนมาลงสมัครอีก จะมีโทษสูงสุดจำคุก 10 ปี ตัดสิทธิ์เลือกตั้ง 20 ปี และ ปรับสูงสด 200,000บาท

ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องขอให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติ ว่าที่ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ 11 คน ถือหุ้นในกิจการสื่อมวลชนนั้น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เรื่องอยู่ระหว่างส่งคำร้องให้กลุ่มงานสอบสวน ไปพิจารณาว่ามีมูลเพียงพอหรือไม่ หากมีมูลก็จะเสนอให้ กกต. ตั้งกรรมการไต่สวนขึ้นมาดำเนินการตามขั้นตอน โดยเป็นอำนาจของกรรมการไต่สวนที่จะพิจารณาหลักฐานและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอต่อ กรรมการ กกต. และส่งเรื่องให้ศาลดำเนินคดีต่อไป