‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘แข็งค่า’ ที่ 31.90 บาทต่อดอลลาร์

บาทแกว่งตัวอ่อนค่าช่วงสั้นตามฤดูกาลปันผล จับตาการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในท้ายสัปดาห์

นายจิติพลพฤกษาเมธานันท์นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่า  ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ31.90 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ32.00 บาทต่อดอลลาร์

ในส่วนของเงินบาทเชื่อว่ามีโอกาสแกว่งตัวอ่อนค่าได้ในช่วงสั้นตามแรงขายเงินบาทช่วงฤดูกาลปันผลอยู่อย่างไรก็ดีต้องระวังFOMC ด้วยเนื่องจากมีโอกาสที่เฟดจะส่งสัญญาณ“ชะลอ” การขึ้นดอกเบี้ยส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าได้อีกขณะที่ปัจจัยหนุนเงินดอลลาร์ยังคงเป็นตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งในท้ายสัปดาห์

มองกรอบเงินบาทในวันนี้31.85 ถึง31.95 บาทต่อดอลลาร์และกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้31.80 ถึง32.30 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกวันที่29 เมษายนถึง3 พฤษภาคมมีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามากมาย

โดยเรามองว่าเรื่องที่ตลาดจะให้ความสำคัญมากที่สุดคือการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐหรือFOMC ในวันพฤหัสเราคาดว่าเฟดจะ“คง” อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ2.25-2.50% และอาจมีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลังข้อมูลตลาดแรงงานฟื้นตัวจากการประชุมครั้งก่อนอย่างไรก็ตามเรายังมองว่าเฟดจะไม่เร่งรีบขึ้นดอกเบี้ยโดยส่วนต่างของบอนด์ยีลด์ระยะสั้นและยาวที่ต่ำและเงินเฟ้อสหรัฐฟื้นฐานที่ยังไม่ปรับตัวเหนือระดับ2.0% คือสองปัจจัยหลักที่เฟดกำลังจับตาอยู่

นอกจากนี้ในวันศุกร์ก็จะมีการรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม(Non-farm Payrolls) ด้วยครั้งนี้ตลาดคาดว่าการจ้างงานจะปรับตัวสูงขึ้น1.9 แสนตำแหน่งทำให้อัตราการว่างงานลดลงมาที่ระดับ3.7% ชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

ฟากฝั่งยุโรปสัปดาห์นี้ก็จะมีการรายงานจีดีพียูโรโซนไตรมาสแรกของปี2019 ในวันอังคารซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัว1.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนประเด็นหลักคือการชะลอตัวในภาคการผลิตของเศรษฐกิจหลักอย่างเยอรมนี

นอกจากนี้ฝั่งอังกฤษก็จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(BOE) ในวันพฤหัสแม้เศรษฐกิจอังกฤษเริ่มฟื้นตัวแต่เชื่อว่าBOE จะ“คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบาย(Bank Rate) ที่ระดับ0.75% เนื่องจากสถานการณ์Brexit ยังมีความไม่แน่นอนสูง

ด้านเศรษฐกิจไทยจะมีการรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป(CPI) เดือนเมษายนในวันพุธเราคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ1.1% ด้วยแรงหนุนของราคาสินค้าเกษตรและพลังงาน