'ธนาธร' ประกาศกร้าว อนาคตใหม่เตรียมเขย่าการเมืองท้องถิ่น

'ธนาธร' ประกาศกร้าว อนาคตใหม่เตรียมเขย่าการเมืองท้องถิ่น

"ธนาธร" ประกาศกร้าว "อนาคตใหม่" พร้อมเขย่าการเมืองท้องถิ่น เหมือนเลือก ส.ส. การเมืองระดับชาติ

เมื่อวันที่ 28 เม.ย.62 ที่พรรคอนาคตใหม่ (อ.น.ค.) ชั้น 5 อาคารไทยซัมมิท ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เมื่อเวลา 15.00 - 17.00 น. พรรค อ.น.ค.ได้จัดกิจกรรม FutureIs Now 'อนาคตใหม่เริ่มได้ทันที' ซึ่งภายในจัดกิจกรรมทั้งรับชม VTR ทัวร์ยุโรปของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค เพื่อศึกษาบริหารจัดการ-การพัฒนาเรื่องน้ำ-สวนสาธารณะ รวมทั้งการทำงานแบบบูรณาการ ในประเทศแถบยุโรป รวมทั้งการจัดสัมมนาสาธารณะ ขณะที่ภายในงานวันนี้ยังจัดบูธขายสินค้าที่ระลึกของพรรคด้วย อาทิ เสื้อ แก้วน้ำเก็บความเย็น โดยช่วงแรก เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. เป็นการเปิดภาพ VTR การทัวร์ยุโรป ในประเทศเนเธอร์แลนด์ , เยอรมัน ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค และน.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค เมื่อช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
จากนั้นเมื่อเวลา 16.15 น. นายธนาธร หัวหน้าพรรค อ.น.ค. ได้บรรยายสาธารณะ พูดคุยประสบการณ์ดูงาน จัดการของเมืองในประเทศแถบยุโรป ให้ผู้สนับสนุนพรรค อ.น.ค.ที่วันนี้เดินทางมาฟังการบรรยายของหัวหน้าพรรค เต็มห้องประชุม โดยนายธนาธร เล่าถึงประสบการณ์ไปดูงานในประเทศเนเธอร์แลนด์แบะการได้พูดคุยกับกลุ่มนักศึกษาไทยที่เสนอแนวคิดสร้างนโยบายพัฒนาจัดการเมืองในประเทศไทยว่า การจัดการเมืองของประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้คนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีมาก ยกตัวอย่างในประเทศเขาไม่มีอาชญากรรมร้ายแรง มีเรือนจำแต่ไม่มีคนต้องถูกขังจนล้นคุก โดยอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดคือขโมยรถจักรยาน ขณะที่เรือนจำเขาก็ให้ประเทศเพื่อนบ้านได้ใช้ประโยชน์สามารถนำคนทำผิดในคดีต่างๆ มาฝากขังได้ ซึ่งเขาจะเก็บเงินรายหัวจากประเทศเพื่อนบ้านที่นำมาฝากขัง

ขณะที่การออกแบบเมือง เขานึกถึงคนก่อนว่าคนเป็นแบบไหน ต้องการอะไรแล้วจึงพัฒนาเรื่องดูแลคนมาเรื่อยๆ แต่ไทยจะออกแบบอะไรจะนึกถึงนายทุนคนมีเงินก่อน ไม่รองรับคนหาเช้ากินค่ำ ทำไมจึงไม่มีความสนใจประชาชนในการออกแบบผังเมืองซึ่งดูเหมือนรัฐบาลกลาง สูงส่งกว่าส่วนภูมิภาค ขณะที่เนเธอร์แลนด์มีเทคโลโลยีอันดับต้นของโลกในการจัดการน้ำ แยกอำนาจจัดการมา ด้วยการตั้งคณะกรรมการน้ำชุมชน ที่จะเลือกตั้งตัวแทนประชาชนมาคิดเองว่าจะจัดการน้ำอย่างไร ก็เป็นการให้มีส่วนร่วมจัดการชุมชน นอกจากนี้เรื่องการตั้งกลุ่มสหกรณ์ด้วย โดยเนเธอร์แลนด์ ส่งออกสินค้าเกษตร มูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกทั้งที่ทรัพยากรของเขาไม่มาก คนน้อย ขณะที่ระบบน้ำก็ยังยาก แต่ทำไมถึงเขาจึงส่งออกสินค้าเกษตรเป็นอันดับ 2 ของโลกได้

ส่วนไทยเรามีเกษตรกรถึง 30 ล้านคนแต่ส่งออกได้ไม่มากเท่า ตัวอย่างการบริหารจัดการสินค้าเกษตรประเภทนม เขาจะสัดส่วนการขายที่ทำจากโรงงานผลิตของเกษตรกรเป็นเจ้าของ กับโรงงานมีนายทุนทำการแปรรูปนมดิบ เป็นนมกล่อง โดยสัดส่วนการขายทางการตลาดนม 86% มาจากสหกรณ์ ของเกษตรกร ส่วนนายทุนกินส่วนแบ่งตลาดเพียง 14% ต่างจากประเทศไทย นั่นคือรัฐบาลเนเธอร์แลนด์พยายามให้ความสำคัญเรื่องนี้มากให้ธุรกิจท้องถิ่นเติบโต ในประเทศเขาร้านค้าปลีกแบบสะดวกซื้ออย่างเซเว่นฯ บ้านเรา มีน้อย ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็ง เราคิดว่าถ้าเกษตรกรไทยทำได้เช่นนั้นแบ่งการตลาดจากนายทุนได้สัก 50% คุณภาพชีวิตจะดีขึ้นขนาดไหน

โดย อนาคตใหม่พยายามพูดเรื่องการนำงบ 10% (ประมาณหมื่นล้านบาท) จากงบกลางแสนกว่าล้านบาท มาสนับสนุนเกษตรกรสร้างโรงงานแบบที่ให้เกษตรกรร่วมเป็นเจ้าของจะดีกว่าหรือไม่ เช่นโรงงานแปรูปยาง , นม , ลำไย สร้างสินค้าเกษตรคุณภาพดี จากโรงงานที่มีกานพัฒนานวตกรรม ก็จะเป็นการจัดการยั่งยืน ดีกว่าการสัญญาให้ราคาพืชผลเกษตร เราเอาเงินมาสร้างโรงงานที่มีเทคโนโลยีใหม่ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรแบบยั่งยืนโดยให้เกษตรกรในชุมชนร่วมด้วยจะดีกว่า ซึ่งแนวคิดส่วนหนึ่งที่ พรรค อ.น.ค.ได้รับฟังจาก 3 นักศึกษาไทยในเนเธอร์แลนด์ ช่วยกันเสนอมา อ.น.ค.จะนำไปใช้พัฒนาต่อไป อย่างการทำเลนรถจักรยานในเมืองท้องถิ่นบางแห่งเขาไม่ต้องการ เท่ากับการพัฒนาบริหารจัดการระบบชลประทานในชุมชน หรืออย่างเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่ตนเคยไปดูการบริหารจัดการของเทศบาล เรื่องขยะ เกาะสมุยเขาก็รู้วิธีการแต่ไม่ได้รับงบประมาณให้จัดขยะจำนวนมากได้อย่างง่าย ซึ่งมี พ.ร.บ.สาธารณสุขฯ ที่ออกโดยส่วนกลางควบคุม โดยเกาะสมุยอยากเก็บค่าจัดการขยะจากโรงแรมให้เยอะเพราะทิ้งเยอะ แต่ ก.ม.ไม่เอื้อให้ท้องถิ่นยืดหยุ่นเรียกเก็บตามสัดส่วนที่ทิ้งได้ในสภาพตามท้องถิ่นพบ แต่เป็นการเก็บตามอัตราส่วนกลางกำหนด

นายธนาธร ยังกล่าวถึงการใช้เงินงบประมาณให้เป็นประโยชน์กับการกระจายอำนาจปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยว่า ตามไปดูการจัดการของต่างประเทศ เขาก็มีที่ให้ปะชาชนในท้องถิ่น เสนอไอเดียมาทำเป็นโครงการ แล้วให้คนในท้องถิ่นนั้นโหวตอยากได้แบบที่สุดจากนั้นจึงนำมาทำเป็นโครงการ อย่างนี้จะเป็นนวัตกรรมด้านนโยบาย เป็นการใช้งบประมาณอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งในการเลือกตั้งท้องถิ่นนี้ พรรค อ.น.ค.จะเสนอแนวคิดเช่นนี้แบบ Innovation หรือตัวอย่างที่ท้องถิ่นในต่างประเทศ เขาพัฒนาตัวเองจากแนวคิดทำ e-Sport มีนักท่องเที่ยวเป็นแสนมาชมในช่วงเสาร์-อาทิตย์ มีคนดูออนไลน์อีก 40 ล้านคน สร้างรายได้ให้เมือง ที่เกิดจากวิสัยทัศน์สภาเมืองและเขามีอำนาจทำในการปรับปรุงอาคารเก่าเป็น e-Sport หรืออย่างสภาเมืองไมอามี่ สหรัฐฯ ที่เขาเคยขอออกพันธบัตรด้วยตัวเองมูลค่า 400 ล้านดอลล่าร์หรือราว 10,000 ล้านบาท สร้างเขื่อนกั้นปัญหาน้ำท่วม-ทำสธารณูปโภคป้องกันท่วม โดยมีการออกประชามติว่าประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่กับนโยบายไปกู้เงินเพิ่มโดยระดมทุนด้วยการออกพันธบัตร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีอำนาจการคลังของตัวเอง พัฒนาเมืองตัวเองโดยไม่ต้องของบเพิ่มจากส่วนกลาง ซึ่งการทำให้พัฒนาเมืองทำได้อีกเยอะมาก โดยในประเทศไทย ท้องถิ่น อ.กุดชุม จ.ยโสธร ก็เคยแก้ปัญหาทางเงินการใช้จ่ายในชุมชนหลังวิกฤติเศรษฐกิจ เสนอจะใช้เงินที่เรียกว่า 'เบี้ยกุดชุม' แต่ภายหลังก็ถูกส่วนกลางห้ามระบุว่าไทยใช้เงินบาทเท่านั้น แนวคิดเช่นนี้จึงหายไป

นายธนาธร ยังกล่าวถึงเรื่องลดอำนาจทางทหารด้วยว่า ประชาธิปไตยคือน้ำดื่มที่กิน มีสวนสาธารณะที่ดี เมืองพัฒนาที่ดี คุณภาพชีวิตที่ดี เป็นประชาธิปไตยที่กินได้จริง แต่สุดท้ายที่เราพบกลายเป็นการตอบรับนายทุน ซึ่งประเทศ ไทยโดยเฉลี่ยเรามีนายกรัฐมนตรี 1 คนที่บริหารงานได้อยู่ 2.9 ปี โดย 6 ปีมีรัฐประหาร 1 ครั้ง ขณะที่สัปดาห์ที่แล้ว คสช.ออกพระราชบัญัญัติ 3-4 เกี่ยวกับเลือกตั้งท้องถิ่น แต่เป็นดึงอำนาจกลับเข้าส่วนกลาง ผิดจากหลักการกระจายอำนาจที่ควรให้มี ดังนั้นการทำให้ประชาธิปไตยได้ ก็ต้องลดบทบาททหาร-กองทัพ ยุติการรัฐประหารด้วย ถ้าทำให้บทบาทกองทัพลดลงไม่ได้ การกระจายอำนาจก็ทำไม่ได้ ถ้ากระจายอำนาจให้ท้องถิ่นดูแลตัวเองได้ ไม่ว่าจะเกิดการรัฐประหารส่วนกลางอย่างก็จะไม่กระทบ ซึ่งรูปแบบการย้ายผู้ว่าฯอย่างในอดีตแบบรัฐนำคนออกจากชุมชนไม่สะท้อนให้เห็นพัฒนาการทางการเมือง เช่นให้คนพัทลุง ไปอยู่ลำพูน และที่ประชาชนย้ายออกชุมชนเพราะเขารู้สึกว่าไม่มีอำนาจร่วมจัดสรรทรัพยากร ร่วมพัฒนาชุมชน ถ้าอำนาจอยู่ใกล้กับประชาชนวิถีชีวิตเขาจะดีขึ้นได้ ดังนั้นคือเหตุผลที่ พรรคอนาคตใหม่ จะมาร่วมทำการเมืองท้องถิ่นด้วย ทั้งระดับเทศบาล , อบต. , อบจ. เราจะส่งผู้สมัครไปในท้องถิ่นต่างๆ

"เราจะเข่ยาการเมืองท้องถิ่น เหมือนที่เขย่าการเมืองในประเทศ โดยผู้สมัครของอนาคตใหม่จะเดินเข้าไปบอกประชาชนว่าอีก 10 ปีท้องถิ่นจะได้แบ่งปันงบเท่าใด จะพัฒนาสาธารณูปโภคอย่างไร เราจะเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นด้วยนโยบายที่ดี แบบที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำกันมาก่อน หากทำได้ก็จะเปลี่นรูปแบบการท้องถิ่นที่เคยมีเพียงคนในครอบครัว พ่อ-แม่-ลูก เป็นผู้บริหารท้องถิ่น"

ส่วน ส.ส.เราจะช่วยกันผลักดันการกระจายอำนาจส่วนกลาง สู่ท้องถิ่นเพื่อให้พัฒนาท้องถิ่นเป็นประชาธิปไตยกินได้จริง สร้างประชาธิปไตยให้ใกล้ประชาชนที่สุดในระดับท้องถิ่น ผู้สมัคเราจะเดินไปบอกชาวบ้านถึงนโยบายว่าจะทำอะไรบ้าง เราจะไม่บอกเราเป็นเครือข่ายกับใคร นามสกุลอะไร แต่จะทำการเมืองท้องถิ่นแบบใหม่ เราจะออกแบบเมืองจริงๆ จากที่เราได้ไปศึกษาดูงานต่างๆ และองค์ความรู้จากบุคคลต่างๆ และผู้เชี่ยวชาญ หรือจากชาวบ้านในท้องที่ โดยตนขอให้ใครก็ตามที่มีไอเดียการพัฒนาชุมชน สามารถเสนอแนะไอเดียให้เราได้ พร้อมที่จะพัฒนาเป็นนโยบายและโครงกานพัฒนาท้องถิ่น เราจะเตรียมตัวหาผู้สมัครนับแต่วันนี้เลย จะตั้งนโยบายแต่วันนี้ช่วยกันออกแบบไอเดียการพัฒนาท้องถิ่นตนเอง แล้วเมื่อเริ่มเลือกตั้งท้องถิ่นเราก็พร้อมจะเปิดนโยบาย ซึ่งตนจะบีบบังคับให้พรรคการเมืองที่จะส่งผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่น สู้กันที่นโยบาย ไม่ใช่ว่าจังหวัดนั้นนามสกุลอะไร และขอฝากว่าประชาชนอย่าเพิ่งหมดหวังในการพัฒนา แม้ว่าการเลือกจะตั้งครั้งนี้จะทำให้เราผิดหวังก็ตาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.20 น.ภายหลังเสร็จสิ้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่แสดงจุดยืนของพรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย และการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นโดยยืนยัน พรรคอนาคตใหม่จะส่งผู้สมัครต่อสู้ในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับแล้ว ก็ได้มีการจัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์ ที่ให้ผู้สนับสนุนทั้งเด็ก-วัยรุ่น-ผู้ใหญ่ ได้ร่วมถ่ายรูปกับนายธนาธรพร้อมเซ็นชื่อในหนังสือด้วย