PTTEP - ซื้อ

PTTEP - ซื้อ

ผลประกอบการไตรมาส 1/62 เป็นไปตามคาด;แนวโน้มกำไรหลักเติบโตต่อเนื่อง

ผลประกอบการเป็นไปตามคาด

PTTEP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 12,479 ล้านบาท ลดลง 7%YoY แต่สูงขึ้น 41% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 11,844 ล้านบาท สูงขึ้น 23% YoY แต่ลดลง 12% QoQ ผลประกอบการสอดคล้องกับการประมาณการของเรา (สูงกว่าตลาดประมาณการ 7%)

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ในไตรมาส 1/62 PTTEP บันทึกรายการพิเศษสุทธิรวม 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากภาษีจ่ายที่ลดลงเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ, กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ ในด้านการดำเนินงาน ปัจจัยหนุนกำไรหลักเติบโต YoY: 1)ปริมาณขายปิโตรเลียมสูงขึ้น, 2) การรับรู้ราคาขายเฉลี่ยของปิโตรเลียมสูงขึ้น (ASP), และ 3) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อยสูงขึ้น ในขณะที่กำไรหลักหดตัว QoQ เนื่องจาก 1) ปริมาณขายลดลง และ 2) ราคาขายเฉลี่ยลดลง

ปริมาณขายในไตรมาส 1/62 อยู่ที่ 319,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 9%YoY (การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการบงกชของ PTTEP) แต่ลดลง1% QoQ (ปริมาณการซื้อก๊าซจากจากแหล่งอื่นๆของ PTT ที่สูงขึ้นหักกลบกับปริมาณยอดขายที่ลดลงจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนและผลกระทบจากพายุปาบึกของโครงการบงกชในระหว่างไตรมาสได้เกือบ
ทั้งหมด) ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 46.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5% YoY(หนุนโดยราคาขายก๊าซที่สูงขึ้น) แต่ลดลง 3% QoQ (เนื่องจากราคาขายน้ามันลดลง) ต้นทุนต่อหน่วยอยู่ที่ 29.33 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทรงตัว YoYแต่ลดลง 10% QoQ (ต้นทุนการซ่อมบารุง, ค่าเสื่อมราคา และค่าใช้จ่ายในการบริหารงานลดลง)

แนวโน้ม

กำไรหลักของ PTTEP ในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะขยายตัวทั้ง YoY และQoQ จากปริมาณขายที่สูงขึ้น และการรับรู้ราคาขายเฉลี่ยของปิโตรเลียมที่สูงขึ้น แม้ว่าต้นทุนต่อหน่วยจะปรับเพิ่มขึ้น ปริมาณขายปิโตรเลียมคาดว่าจะอยู่ที 330,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 9% YoY (การรับรู้การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการบงกชที่เพิ่มขึ้น) และ 3% QoQ (การหยุดซ่อมบำรุงตามแผนลดลง) และราคาขายก๊าซคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 11% YoY (ทรงตัว QoQ) มาอยู่ที่ 6.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อ MM btu ทั้งนี้ PTTEP ประมาณการว่าต้นทุนต่อหน่วยจะปรับตัวสูงขึ้น 2% YoY และ 9% QoQ มาอยู่ที่ 32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง,ค่าภาคหลวง และค่าใช่จ่ายในการบริหารงาน (ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของพนักงานที่บันทึกเพียงครั้งเดียว)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรสุทธิในไตรมาส 1/62 คิดเป็น 32% ของประมาณการกำไรสุทธิปี2562 ที่ 38,970 ล้านบาท ซึ่งเรายังคงประมาณการไว้ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตามการกลับรายการสินทรัพยภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี (ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับพระราชบัญญัติภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ปี 2562; คาดว่าค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดจะอยู่ที่ 146 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะถูกบันทึกในไตรมาส 2/62), อัตราแลกเปลี่ยน (เงินบาทต่อเงินดอลลาร์)และแนวโน้มราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญที่อาจส่งผลให้ผลประกอบการในปี 2562 แตกต่างจากที่เราคาดการณ์ไว้

คำแนะนำ

การคาดการณ์กำไรหลักเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น ในระยะยาว แนวโน้มการเติบโตของกำไรแข็งแกร่ง หนุนโดยการลงทุนต่อเนื่องและโอกาสการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม รวมทั้งอายุสำรองปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนั้นมูลค่าหุ้นยังคงไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2562 ที่เพียง 1.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 2.2 เท่าอยู่ 0.9 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน