TACC - ซื้อเก็งกำไร

TACC - ซื้อเก็งกำไร

คาดการณ์กำไร 1Q62 โต 153%QoQ, 54%YoY

ประเด็นสำคัญ :

  • คาดการณ์กำไร 1Q62 ราว 24 ลบ. +153%QoQ +54%YoY: ฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้ 1Q62 ราว 338 ลบ. -8%QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ +20%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุน 3 ประการ คือ 1) เติบโตตามจำนวนการเปิดสาขา 7-11 2) รับรู้รายได้จากธุรกิจ Characters Business เต็มไตรมาสเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจดังกล่าวเริ่มดำเนินการเมื่อต้นเดือน เม.ย.61 และ 3) การนำ Hershey’s มาเป็นเครื่องดื่มหลัก ประกอบกับผลิตภัณฑ์ที่ออกใหม่ในช่วง 1Q62 ได้รับความนิยมจากลูกค้า อาทิ เครื่องดื่มอัญชันน้ำผึ้งมะนาว และมะม่วงโยเกิร์ตปั่น นอกจากนี้ เราคาดว่า %GPM ในช่วง 1Q62 จะปรับดีขึ้นมาที่ระดับราว 5% จาก 1Q61 อยู่ที่ระดับ 25.6% เนื่องจากผลกระทบของภาษีน้ำตาล ประกอบกับช่วง 4Q61 มีการตัดหนี้สูญของลูกค้ากัมพูชาราว 23 ลบ. ส่งผลให้คาดการณ์กำไร 1Q62 ราว 24 ลบ. +153%QoQ +54%YoY
  • บริษัทตั้งเป้าปี 62 เติบโต 15-20% ได้แรงหนุนจาก Characters Business : บริษัทวางแผนรายได้ปี 62 เติบโตราว 15-20% ตามการทิศทางการขยายสาขาของ 7-11 ประกอบกับธุรกิจใหม่ Character Business ที่เริ่มดำเนินการเมื่อกลางปี 61 โดยบริษัทได้รับสิทธิการเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์ระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) ครอบคลุม 7 ประเทศ คาแรคเตอร์ของ San-X ได้แก่ Rilakkuma, Sumikko gurashi, Mamegoma โดยในปี 61 มีรายได้จากธุรกิจนี้ ราว 18 ลบ. และในปี 62 คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญ มีรายได้เติบโตมากกว่าเท่าตัว และยังมีแผนเปิดตัวคาร์แรคเตอร์ใหม่เพิ่มเติม ปัจจุบันมีลูกค้าในธุรกิจนี้มากกว่า 50 ราย และยังมีแผนขยายธุรกิจคาแรคเตอร์ไปยังแถบประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเพิ่งกลับเข้าไปขายเครื่องดื่มตรา Zenya ที่กัมพูชาอีกครั้ง คาดจะเป็นอัพไซต์ของแผนการเติบโต
  • ปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 62 สู่ 104 ลบ. จากเดิม 93 ลบ. (เพิ่ม 11%) +52%YoY: เราปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้สู่ 1,477 ลบ. จากเดิม 1,441 ลบ. (เพิ่ม 5%) เติบโต 14.6%YoY ตามสมมติฐานการเติบโตตามจำนวนสาขาของ 7-11 ที่ 700 สาขา ประกอบกับปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ธุรกิจคาร์แรคเตอร์สู่ราว 45 ลบ. จากเดิมที่ 30 ลบ. (เพิ่มขึ้น 50%) พร้อมกับปรับเพิ่มคาดการณ์ %GPM มาสู่ระดับภาวะปกติที่ราว 30.5% จากเดิม 29.75% ส่งผลให้เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 62 สู่ 104 ลบ. จากเดิม 93 ลบ. (เพิ่ม 11%) +52%YoY
  • ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” จากเดิม “ซื้อ” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสมสำหรับปี 62 สู่ 4.64 บาท (จากเดิม 3.80 บาท) : ประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PE Ratio โดยอิง PE อย่างอนุรักษ์นิยม ที่ 27x ซึ่งเป็นระดับ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปี และคาดกำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.17 บาทต่อหุ้น (เพิ่มจากเดิมที่ 0.15 บาทต่อหุ้น) ได้ราคาเหมาะสมที่ 4.64 บาท (เพิ่มจากเดิมที่ 3.8 บาท) สูงกว่าราคาปัจจุบันแต่มีอัพไซต์ไม่มาก จึงปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อเก็งกำไร” จากเดิม “ซื้อ”

ความเสี่ยง

   i)ธุรกิจมีการแข่งขันสูงและรุนแรง      ii) รายได้กว่า 90% พึ่งพิงร้าน 7-11         iii) ผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ประสบความสำเร็จ