SPA - ถือ

SPA - ถือ

คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q62 ราว 70 ลบ. เติบโต 42%QoQ 24%YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัว

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q62 ราว 70 ลบ. เติบโต 42%QoQ 24%YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ฟื้นตัว: คาดการณ์กำไรสุทธิ 1Q62 ราว 70 ลบ. เติบโต 42%QoQ 24%YoY จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาใกล้เคียงเดิมอีกครั้งโดยรวม 2 เดือน(ม.ค.- ก.พ.62) อยู่ที่ราว 2.1 ล้านคน ฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนในช่วง 2H61 ลดลงถึง 10%YoY โดยเราคาดบริษัทจะมีรายได้เติบโตที่ราว 19%YoY สู่ 308 ลบ. จากการเติบโตของ SSSG จากสาขาที่เปิดใหม่ในปี 61 และเรายังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิไว้ใกล้เคียงกับ 1Q61 ที่ 37% และ 21% ตามลำดับ
  • คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่255 ลบ. เติบโต 24%YoY ตามแผนการขยายสาขา: คงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ 255 ลบ. เติบโต 24%YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแผนการขยายสาขาในปีนี้คาดจะอยู่ที่ราว 10 สาขาเช่นเดิม แต่จะแบ่งเปิดกระจายไปในแต่ละไตรมาส ต่างจากเดิมที่กระจุกตัวในช่วงปลายปี อีกทั้งยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากกิจการชบา เอลลิแกนซ์ ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 76%  โดยจะควบรวมงบการเงินตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 คาดว่าจะมีสัดส่วนราว 5% ของรายได้รวม โดยเราคาดรายได้รวมของบริษัทจะเติบโตราว 23%YoY สู่ 1,404 ลบ. และยังคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิที่  35% และ 18% ตามลำดับ
  • เริ่มขายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ Let’s Relax ไปยังเมียนมา : เมื่อวันที่ 22 ก.พ.62บอร์ดมีมติเห็นชอบเข้าทำสัญญา Franchise Agreement ให้กับผู้ประกอบการ Living square ในประเทศเมียนมาเป็นระยะเวลา 5 ปี และสามารถขยายต่อไปได้อีก 5 ปี คาดจะเปิดดำเนินการได้ราว 3Q62 โดยค่าแฟรนไชส์แบ่งชำระเป็น 2 ส่วน คือ Lump-sum(แบบจ่ายเงินก้อน) และ Monthly Franchise Fee (คิดตามสัดส่วนรายได้ต่อเดือน) อีกทั้งบริษัทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการเปิดสาขาแฟรนไชส์ Let's Relax ในเมืองชิงต่าว ประเทศจีน เป็นสาขาที่ 2 คาดจะเปิดดำเนินงานได้ราว 2Q62 เรามองว่าเป็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตในต่างประเทศ
  • คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเหมาะสม 14.00 บาท: เรายังคงชื่นชอบ SPA ที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงส่วนแบ่งรายได้จากกิจการ ชบา เอลลิแกนซ์ โดยเราประเมินมูลค่าตามพื้นฐานด้วยวิธี DCF ใช้สมมติฐาน WACC 7.3% , Terminal Growth 4.0%  ได้ราคาเหมาะสมเท่ากับ 14.00 บาทแต่เนื่องจากราคาหุ้นขึ้นมาตอบรับผลการดำเนินงานแล้ว เราจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ”

ความเสี่ยง

   1.เปิดสาขาได้ล่าช้ากว่าแผนงาน   2.จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากเหตุการณ์ไม่ปกติ

   3. การขยายสาขาของแฟรนไชส์ที่ต่างประเทศไม่เป็นไปตามคาด