IVL - ซื้อ

IVL - ซื้อ

แม้จะมีการชะลอตัวในระยะสั้น แต่แนวโน้มยังคงสดใส

การคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาส 1/62 อ่อนตัวลงอาจสร้างแนวโน้มเชิงลบต่อ IVL ในระยะสั้น แต่ราคาหุ้นคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นหลังจากนี้ หนุนโดยปริมาณขายและส่วนต่างราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นตามปัจจัยทางฤดูกาล (ซึ่งจะหนุนกำไรหลักขยายตัว QoQ ในไตรมาส 2/62) ทั้งนี้มูลค่าหุ้นยังคงน่าสนใจ โดยปัจจุบันซื้อขายที่PER ปี 2562 ที่เพียง 9.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.5 เท่าค่อนข้างมาก

ผลประกอบการอ่อนตัวในไตรมาส 1/62 นั้นเป็นการชะลอตัวเพียงระยะสั้น

เราคาดว่า IVL จะรายงานกำไรสุทธิที่ 2,959 ล้านบาท (ลดลง 49% YoYแต่เพิ่มขึ้น 26% QoQ) และกำไรหลักที่ 3,264 ล้านบาท (ลดลง 30%YoY และ 19% QoQ) สำหรับไตรมาส 1/62 ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรหลักปรับตัวลดลง ได้แก่: 1) การหยุดโรงงานจากเหตุสุดวิสัยที่โรงงานPET/PTA (รอตเตอร์ดัม), 2) การปิดซ่อมบำรุงตามแผนและนอกแผน 58 วัน ที่โรงงาน EOEG (สหรัฐ), 3) ส่วนต่างราคาของผลิตภัณฑ์หลักของ IVL ลดลง YoY และ 4) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษอ่อนตัวลง ทั้งนี้ ส่วนต่างราคา PET และ PTA อยู่ในระดับสูงกว่าปกติในไตรมาส 1/61เนื่องจากอุปทานที่ตึงตัวซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการหยุดโรงงานนอกแผนทั่วโลก

อย่างไรก็ตามอุปสงค์ในช่วงไฮซีซันสำหรับผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์กอปรกับการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงงาน PTA (โปรตุเกส), โรงงาน PET (บราซิลและอียิปต์), โรงงานผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์มูลค่าเพิ่มสูงและโรงงาน PET preform และโรงงานเส้นใยสำหรับยานยนต์มูลค่าเพิ่มสูงคาดว่าจะหนุนปริมาณการผลิตให้เติบโต 24% YoY และ 2% QoQ มาอยู่ที่ 2.9 ล้านตัน ซึ่งช่วยบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากการหยุดโรงงานในช่วงไตรมาส 1/62 (รูปภาพที่ 1-3)

ช่วงไฮซีซันจะหนุนกำไรหลักไตรมาส 2/62 ให้เติบโต QoQ

ช่วงไฮซีซันของอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์โดยปกติจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ดังนั้นเราคาดว่าปริมาณขายจะขยายตัวต่อเนื่อง QoQ ในไตรมาส 2/62 นอกจากนี้ยังมีการรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อสินทรัพย์ใหม่ ได้แก่ โรงงาน PET ชนิดพิเศษ (เยอรมัน), โรงงานถุงลมนิรภัย (เยอรมันและเม็กซิโก) และโรงงานไฟเบอร์ (บราซิล) คาดว่าจะหนุนปริมาณยอดให้เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ช่วงพีคซีซันจะหนุนส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ให้ปรับตัวสูงขึ้น QoQ แต่ส่วนต่างราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลง YoY (ส่วนต่างราคาสูงผิดปกติในไตรมาส 2/61) ดังนั้นกำไรหลักของ IVL ในไตรมาส 2/62 คาดว่าจะปรับตัวลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ทั้งนี้การหยุดโรงงาน EOEG นอกแผนและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับผลประโยชน์ของพนักงงานเพียงครั้งเดียวจะจำกัดการขยายตัวของกำไรหลัก QoQ เล็กน้อย

เพื่อสะท้อนการปิดซ่อมบำรุงตามแผนที่นานกว่าประมาณการและการหยุดนอกแผนของโรงงาน EOEG และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับผลประโยชน์พนักงานเพียงครั้งเดียว (107 ล้านบาท) เราได้ปรับลดการประมาณการกำไรสุทธิปี2562 ลง 9% มาอยู่ที่ 26,770 ล้านบาท และปรับลดราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2562 (ด้วยวิธีประเมินมูลค่า DCF) มาอยู่ที่ 78 บาท (จาก 80 บาท)

ปี 2562 ยังคงเป็นวัฏจักรขาขึ้นของผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์

ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ (PTA และ PET) คาดว่าจะยืนได้อย่างแข็งแกร่ง YoY ในปี 2562-63 หนุนโดยกำลังการผลิตส่วนเพิ่มที่ลดลง, การรักษาการเติบโตของอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง และต้นทุนวัตถุดับ PX ที่ลดลง ทั้งนี้ในระหว่างปี 2562-63 การเติบโตของอุปสงค์สำหรับ PET คาดว่าจะขยายตัวมากกว่าการเติบโตของอุปทาน 0.3 ล้านตัน และอุปสงค์สำหรับ PTA คาดว่าจะเติบโตรวดเร็วกว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทานเป็นจำนวน 4.9 ล้านตัน ดังนั้นส่วนต่างราคา PTA และ PET คาดว่าอย่างน้อยจะทรงตัว YoY ใน
ปี 2562