KKP - ซื้อ

KKP - ซื้อ

แนวโน้มดีปันผลสูง

เราคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2562 จะอยู่ที่ 4% หนุน โดย 1) การเติบโตของสินเชื่อ 5% และ 2) การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรับสุทธิ 3% โดยเน้นสินเชื่อบรรษัท และธุรกิจรายย่อย (ที่มิใช่รถยนต์) ขณะที่ธุรกิจที่กี่ยวข้องกับตลาดทุนจะหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมให้สูงกว่าปกติในครึ่งปีหลัง อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของ KKP อยู่ที่ 17.8% (สูงกว่าขั้นต่ำที่ ธปท. กำหนดที่ 11.5%) เราคาดว่าอัตราเงินปันผลในปี 2562 สูงที่ 7.3% เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

เป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2562 อยู่ที่ 8% แม้ว่าจะเติบโต15% ในไตรมาส 1/62

ผู้บริหารกล่าวว่าเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อปี 2562 จะอยู่ที่ 8% และเติบโตก้าวกระโดด 15% YoY ในไตรมาส 1/62 KKP หันมามุ่งเน้นสินเชื่อธุรกิจที่ในผลตอบแทนต่ำ เช่น สินเชื่อบรรษัท, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะปรับตัวลดลงจากปีก่อนที่ 4.5% ในปี 2561 เล็กน้อย เนื่องจากการเติบโตของสินเชื่อเน้นสินเชื่อให้ผลตอบแทนต่ำมากขึ้น โดยเราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อจะอยู่ที่ 5% และ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.23% ซึ่งเป็นมุมมองที่คอนข้างอนุรักษ์นิยมกว่าที่ KKP คาดการณ์และต่ำกว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1/62 ที่ 4.51% โดยหาก ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ กำไรปี 2562 คาดว่าจะมากกว่าที่เราคาดการณ์

เราคาดว่า KKP จะขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพในปี 2562 อีกโดยรวมที่ 600 ล้านบาท (ลดลง 50% YoY) กำไรประมาณ 300 ล้านบาท (ต่ำกว่ากำไรที่ประกาศในปีที่แล้วที่ 700 ล้านบาท) หากบริษัทประกาศกำไรมากกว่า 300 ล้านบาทในปีนี้จากการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ จะเกิดอัพไซด์ต่อประมาณการในปี 2562 ของเรา ทั้งนี้ไตรมาส 1/62 KKP บันทึกกำไร 64 ล้านบาท จากการขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ 171 ล้านบาทแต่กิจการมีผลขาดทุน 300 ล้านบาทจากการขาย ทรัพย์สินรอการขาย (ซึ่งส่วนมากเป็นรถยนต์ยึดมาจากการปล่อยสินเชื่อ)

รายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้นหลังต่ำสุดในไตรมาสแรก

ผู้บริหารคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมฟื้นจากไตรมาสแรก 2562 หนุนโดยดีลขนาดใหญ่จาก IB, ธุรกิจการลงทุน และค่าธรรมเนียมจากโบรคเกอร์ โดยปัจจุบัน KKPเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้รับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์ในดีลดังนี้ 1) GPSC เข้าซื้อ GLOW, 2) หุ้น IPO โครงการ Thailand Future Fund Phase II และ 3) การเข้าซื้อหุ้นธนาคารธนชาตของ TMB จาก TCAP ทั้งนี้เรายังไม่ได้ ทั้งนี้เรายังมิได้รวมดีลดังกล่าวในประมาณการของเรา รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรับสุทธิคาดว่าจะเติบโต 3%YoY มาอยู่ที่ 6.6 พันล้านบาท

เงินกองทุนใหญ่หนุนการเติบโตและอัตราเงินปันผลที่ดี

อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง KKP อยู่ที่ 17.8% ณ สิ้นเดือนมี.ค.2562 (เงินกองทุนขั้นที่1 14.0%) สูงกว่าที่ ธปท.กำหนดขั้นต่ำที่ 11.5% โดยฐานเงินทุนที่ใหญ่จะส่งผลให้ KKP ขยายการปล่อยสินเชื่อในอีกสองสามปีโดยไม่ต้องเพิ่มทุน กิจการคงแผนรักษาอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2562 อยู่ประมาณ 14-15% เทียบกับ 14% จากปีที่แล้ว (เราคาดการณ์ที่ 14.4%ปีนี้) เราคาดว่าอัตราเงินปันผลต่อหุ้นจะอยู่ที่ 5.00 บาท (ผลตอบแทนเงินปันผลอยู่ที่ 7.3%) สูงสุดเป็นอันดับสองในกลุ่มธนาคารรองจาก TISCO) โดยหากกำไรปี 2562 มากกว่าที่เราคาด จะเป็นอัพไซด์ต่อคาดการณ์อัตราเงินปันผลต่อหุ้น และราคาเป้าหมายของเรา