“โกลเด้นแลนด์” รุกบ้านแฝด หนี “ทาวน์เฮ้าส์” เรดโอเชียน

“โกลเด้นแลนด์” รุกบ้านแฝด หนี “ทาวน์เฮ้าส์” เรดโอเชียน

จากซัพพลายคอนโดมิเนียมที่อยู่ในภาวะล้นเกินในบางทำเล ทำให้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บางราย เบนเข็มมาทำตลาด “ทาวน์เฮ้าส์” จนปัจจุบันภาวะการแข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ( Red Ocean)

ประกอบกับยังมี“ตัวเร่ง”จากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย ด้วยการกำหนดอัตราสินค้าต่อมูลค่าที่อยู่อาศัย (LTV) เริ่มบังคับใช้ไปเมื่อ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยตลาดคอนโดถือเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบมากกว่าประเภทอสังหาฯอื่น โดยเฉพาะคอนโดในสัญญาที่ 2 และ 3 ที่จะต้องเพิ่มสัดส่วนเงินดาวน์ ทำให้การรุกมาทำให้ตลาด“เรียลดีมานด์”(สัญญาแรก) อย่างทาวน์เฮ้าส์ มีดีกรีเพิ่มขึ้น

บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน ) หรือโกลเด้นแลนด์ หนึ่งในธุรกิจอสังหาฯในพอร์ตของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งที่ผ่านมารุกหนักในตลาดทาวน์เฮ้าส์ จึงหนีภาวะการแข่งขันไปอีกขั้น ด้วยการประกาศรุก ตลาดบ้านแฝด” ซึ่งประเมินว่ายังมีความต้องการ (ดีมานด์) เติบโตต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับทาวน์เฮ้าส์ ซึ่งเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว 

ภวรัญชน์ อุดมสิริ กรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาทาวน์โฮม โกลเด้นแลนด์ ให้ข้อมูลว่า ในตลาดทาวน์เฮ้าส์ อุปทานใหม่ หรือโครงการที่เปิดใหม่ในช่วง 3 ปีย้อนหลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ยอดขายในปี2560 โตขึ้นจากปี2559 สัดส่วน 18% แต่ปี2561 ตลาดกลับลดลง 5%  นอกจากนี้หากดูอุปทานคงเหลือ ในปี2560 พบว่ามีสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น 12% ปี2561 มีสินค้าคงเหลือเพิ่มขึ้น 24% แสดงให้เห็นว่า โครงการเปิดจำนวนมากแต่ยอดขายไม่ได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย 

ดังนั้นแนวโน้มสินค้าคงเหลือจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ในปี2562ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังเปิดตัวโครงการต่อเนื่อง เช่น พฤกษา ประกาศเปิดตัว 28 โครงการ ,เอพี ไทยแลนด์ 19 โครงการ ,โกลเด้นแลนด์ 13 โครงการ ,อนันดา 2 โครงการ และเอเวอร์แลนด์ 3 โครงการ

“ภาพรวม2-3 ปีย้อนหลังตลาดทาวน์เฮ้าส์ มีกลุ่มผู้พัฒนาโครงการจากคอนโดปรับพอร์ตเขามาทำทาวน์เอ้าส์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แสนสิริ เอสซี แอสเสท ออริจิน อนันดา ทำให้ตลาดทาวน์เฮ้าส์กลายเป็นเรดโอเชียนจากเดิมที่เป็นบูลโอเชียน ทำให้ภาพรวมตลาดไม่ได้โตหรือสดอีกต่อไป”

ขณะที่ตลาดบ้านแฝด พบว่า มีมูลค่า 22,799 ล้านบาท (ยอดโอน) อัตราการเติบโตไม่ได้มาก 4,296 ล้านบาท จากปี2560 เทียบกับปี2561 และเมื่อเทียบยอดโอนในตลาดแนวราบปี2561 ที่มีมูลค่ารวม262,740 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 50% ทาวน์เฮาส์41% และบ้านแฝด 9% 

แสดงให้เห็นว่า ตลาดบ้านแฝดผู้ซื้อยังให้ความสนใจน้อย ผู้เล่นในตลาดน้อย จึงเหตุผลที่ทำให้ ‘โกลเด้นแลนด์’ ตัดสินใจเข้ามารุกตลาดบ้านแฝดอย่างจริงจัง ด้วยการ ‘ปฏิวัติบ้านแฝด’ ให้ดึงดูดใจผู้ซื้อด้วยการถ่ายทอดนวัตกรรมจากการพัฒนาโครงการทาวน์โฮม ของโกลเด้นแลนด์ มาสู่บ้านแฝด โดยดีไซน์หน้าตาใหม่ให้เป็นนีโอ โฮมแทนที่จะเรียกบ้านแฝด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ให้เหมือนบ้านเดี่ยว เริ่มจาก โกลเด้น นีโอ บางแค สาธร ลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ 2 รามอทนรา บางนากิ่งแก้ว ด้วยการปรับดีไซน์ให้เป็นสไตล์ยุโรปเพื่อตอบโจทย์คนไทย โดยมี2สไตล์อังกฤษ อิตาลี ที่ดูหรูหรา ตอบโจทย์คนที่อยากได้บ้านเดี่ยว แต่งบประมาณไม่ถึง 7 ล้านบาทขึ้นไป 

เนื่องจากราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าอัตรารายได้ของประชากรทำให้บ้านเดี่ยวเป็นสินค้าที่คนยากได้แต่จับต้องยาก เพราะไม่มีกำลังซื้อพอ ฉะนั้น ‘บ้านแฝด’ จึงเข้ามาเป็นทางเลือก ที่ตอบโจทย์กล่าวคือ อยู่ในทำเลใกล้เมือง ราคาที่จับต้องได้ งบประมาณ 5 ล้านบาทขึ้นไปจนถึง9ล้านบาท โดยมีการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้สอยที่ไม่แพ้กับบ้านเดี่ยวภายใต้แนวคิด สวย ครบคุ้ม ใกล้เมือง

เหตุผลที่เข้ามารุกตลาดบ้านแฝด ยังเป็นตลาดเล็ก คู่แข่งน้อย อัตราขาบยังโตช้างกว่าสินค้าคงเหลือและสินค้าใหม่และเป็นสินค้าที่ยากต่อการทำตลาด เป็นเรื่องที่ท้าทายในการเข้าไปรุกตลาดอย่างจริงจัง คาดหวังว่า หากสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมายจะสามารถขึ้นเป็นเบอร์ในตลาดสิ้นปีนี้จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3”

สำหรับรายได้ในตลาดบ้านแฝดในปี2561 ที่ผ่านมา 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. พฤกษา รายได้ 3,489 ล้านบาท 2. ศุภาลัย 1,799 ล้านบาท 3. โกลเด้นแลนด์ 1,743 ล้านบาท 4. เอพี ไทยแลนด์ 1,239 ล้านบาท และ5.คิวเฮ้าส์ 1,219 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่า โกลเด้น นีโอ จะมียอดโอน 3,600 ล้านบาทโต100% จากไตรมาสแรก โอนไปแล้ว1198 ล้านบาท (คิดเป็นสัดส่วน 30%) มี Backlog รอโอนในปี62 จำนวน 8 โครงการรวมมูลค่า1600 ล้านบาท รวมมูลค่ารับรู้รายได้ในไตรมาแรกและ Backlog 2798ล้านบาท มูลค่าสินค้าที่ขายในปี2562 เป็โครงการเก่า 3,202 ล้านบาท โครงการใหม่ปีนี้7,018 ล้านบาท รวมทั้ง 10,200 ล้านบาท