ครม.ไฟเขียวร่างประกาศบอร์ดพีพีพี 12+1

ครม.ไฟเขียวร่างประกาศบอร์ดพีพีพี 12+1

ครม.ไฟเขียวร่างประกาศบอร์ดพีพีพี 12+1 กิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่เกี่ยวเนื่อง และจำเป็นต้องเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน 2562 ครัวการบิน บริการเชื้อเพลิง ซ่อมอากาศยานเข้าข่าย

เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) แห่งพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 พ.ศ. .... ตามที่คณะกรรมการนโยบายร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เสนอ

โดยสาระสำคัญของร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายฯคือการกำหนดกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) แห่ง พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ซึ่งเกี่ยวข้องกับธุรกิจและกิจการการบิน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปถือปฏิบัติในการดำเนินการตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 จำนวน 12 กิจการได้แก่ 1.ครัวการบิน (Catering Services) 2.คลังสินค้า 3.ระบบให้บริการเชื้อเพลิงอากาศยานอุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง 4.อุปกรณ์บริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการซ่อมบำรุง 5.การบริการขนส่งสัมภาระที่เกิดการตกค้างระหว่างเดินทาง

6.การให้บริการด้านผู้โดยสาร (Passenger Handling Services) 7.การให้บริการรักษาความปลอดภัย 8.การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แบบอิเล็กทรอนิกส์แสดงข้อมูลและบอกทิศทางแก่ผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน 9.การให้บริการล้างเครื่องบินด้วยระบบเคลื่อนที่ 10.การปรับปรุงความปลอดภัยหรือการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน 11.การก่อสร้างหรือการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดผลกระทบทางเสียงที่เกิดขึ้นจากการใช้สนามบิน และ12.การรักษาสิ่งแวดล้อมและลดมลพิษที่เกิดจากการใช้สนามบิน

ส่วนกิจการบริการซ่องบำรุงอากาศยาน กำหนดให้เป็นกิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะของการขนส่งทางอากาศตามมาตรา 7 (3) แห่ง พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การออกร่างประกาศคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน เรื่อง กิจการเกี่ยวเนื่องที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) ฉบับนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีกรณีที่มีข้อถกเถียงว่ากิจการร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) ภายในท่าอากาศยานที่บริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดประมูลดิวตี้ฟรีซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งทำให้นายกรัฐมนตรีสั่งตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย ที่มีอัยการสูงสุดเป็นประธานเพื่อวินิจฉัยข้อกฎหมายว่าดิวตี้ฟรีในสนามบินเข้าข่ายกิจการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ ซึ่งภายหลังจากมีการพิจารณาแล้วว่ากิจการดิวตี้ฟรีไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนทำให้มีการออกประกาศประเภทกิจการที่เกี่ยวเนื่องจำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะตามมาตรา 7 (3) แห่ง พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 และผ่านการเห็นชอบจาก ครม.ในวันนี้