ธนาคารโลกห่วงการเมืองฉุดลงทุนใหม่สะดุด คาดจีดีพีโต 3.8%

ธนาคารโลกห่วงการเมืองฉุดลงทุนใหม่สะดุด คาดจีดีพีโต 3.8%

ธนาคารโลกห่วงการเมืองฉุดลงทุนใหม่สะดุด คาดจีดีพีไทยปีนี้โต 3.8% โดยได้แรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศ ส่วนส่งออกโต 5.7%

นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตได้ 3.8% ส่วนปีหน้าจะเติบโต 3.9% เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและเทียบกับในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าแล้ว ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากไทยมีอุปสงค์ในประเทศเข้ามาช่วยทดแทนการชะลอตัวของการส่งออก ขณะเดียวกันการลงทุนภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนก็เริ่มกลับเข้ามา


“อุปสงค์ในประเทศ จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้าได้" นายเกียรติพงศ์ระบุ


ขณะที่การส่งออกไทยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้ 5.7% ชะลอลงเล็กน้อยจากปี 2561 และปี 2563 คาดว่าจะเติบโตในระดับ 5.5% เป็นผลจากความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งประเด็นทางการค้า ถือเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อการส่งออกของหลายประเทศในภูมิภาค รวมทั้งไทยด้วยเช่นกัน


นายเกียรติพงศ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศว่า ในเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ภายหลังจากมีการเลือกตั้งทั่วประเทศไปเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 นั้น หากเป็นไปอย่างล่าช้าจะส่งผลต่อโครงการลงทุนภาครัฐใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เริ่มเข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไปแล้วนั้นอาจจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนเองอาจยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจทำให้การลงทุนต้องชะลอออกไปด้วย


สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลชุดปัจจุบันพยายามจะออกมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระหว่างที่ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น นายเกียรติพงศ์ มองว่า นโยบายด้านการเงินการคลังของไทยยังมีศักยภาพค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากหนี้สาธารณะยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้นจึงยังมีช่องพอที่จะให้รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงนี้