‘อะเมซอน’ จัดทัพลุยอีคอมเมิร์ซไทย

‘อะเมซอน’ จัดทัพลุยอีคอมเมิร์ซไทย

“อะเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง” เปิดเกมลุยอีคอมเมิร์ซไทย ประกาศจัดตั้งทีมหนุนผู้ประกอบการค้าขายข้ามพรมแดน ชูจุดต่างเครือข่ายระดับโลก โลจิสติกส์พร้อม นวัตกรรมล้ำช่วยเข้าถึงตลาดทั่วโลก

นายเบอร์นาร์ด เทย์ ผู้อำนวยการ อะเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า เข้ามาจัดตั้งทีมงานและสำนักงานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งเจ้าของแบรนด์ ตัวแทนจำหน่าย เอสเอ็มอี และบริษัทผู้ผลิตสร้างโอกาสในการส่งออกและขยายธุรกิจไปทั่วโลก

โดยสาเหตุที่เลือกไทย เนื่องจากเห็นว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพและความพร้อมที่จะบุกตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ปัจจัยจากที่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีฐานการผลิตที่แข็งแรง ถูกจัดไว้เป็นผู้ผลิตทางเลือกที่จะกลายเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลก(MITI-V)

ขณะเดียวกัน มีประสบการการส่งออกจำนวนมาก ปี 2561 มูลค่าการส่งออกของไทยขยายตัว 7.7% มากกว่านั้นมีกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการผลักดัน “ดิจิทัล ไทยแลนด์” ที่จะเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจบนโลกออนไลน์

“ไทยเป็นประเทศที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เราเข้ามาตั้งสำนักงาน ต่อจากสิงคโปร์ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่สำหรับการทำตลาดในภูมิภาค ครั้งนี้ไม่ได้เข้ามาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่เนื่องจากในไทยมีบริษัทอะเมซอนเว็บเซอร์วิสเซสอยู่ก่อนแล้วจึงจะไม่มีการตั้งบริษัทซ้ำกัน ด้านการทำงานทำแบบแยกส่วนออกมาไม่ได้อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกัน”

เขากล่าวว่า การสนับสนุนการทำตลาดจะเริ่มที่สหรัฐผ่านอะเมซอนดอทคอม(Amazon.com) ขณะนี้ทีมงานไทยพร้อมให้ความรู้และสนับสนุนผู้ขายด้านการขยายธุรกิจผ่านมาร์เก็ตเพลส เริ่มตั้งแต่การเปิดบัญชีผู้ขาย สร้างรายการสินค้า บริหารจัดการบัญชี รวมถึงบริการเอฟบีเอ(Fulfillment by Amazon) ฯลฯ

นอกจากนี้ มีแผนร่วมมือกับผู้ให้บริการท้องถิ่นชั้นนำเพื่อให้บริการด้านการส่งออกออนไลน์แก่ผู้ขาย ทั้งโลจิสติสก์ และการรับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ขณะนี้ยังเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นที่มีการตั้งทีม ศึกษาตลาด และให้ความรู้กับตลาดระดับท้องถิ่น ด้านโมเดลรายได้จะมาจาก 3 ส่วนคือ ค่าบริการรายเดือน ค่าธรรมเนียมจากการขายสินค้า และบริการเอฟบีเอ

อะเมซอนมีจุดเด่นทั้งด้านเครือข่ายธุรกิจที่ครอบคลุมทั่วโลก โลจิสติกส์ประสิทธิภาพสูง และบริการนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้ขายสามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศ การเปิดตัวสำนักงานและทีมงานในประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจของอะเมซอน โกลบอล เซลลิ่งในภูมิภาคนี้

"เราจะเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงผู้ขายทั่วโลกเข้ากับฐานลูกค้าที่มีอยู่กว่า 300 ล้านราย พร้อมเปิดโอกาสให้เข้าถึงผู้ซื้อสินค้าที่เป็นองค์กรและบุคคลทั่วไปใน 185 ประเทศทั่วโลก โดยสินค้าไทยที่มีโอกาสทำยอดขายได้ดีคาดว่าจะเป็น เสื้อผ้า แฟชั่น ของแต่งบ้าน สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง อุปกรณ์กีฬา และของเล่น"

อะเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง เป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจของอะเมซอน จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั่วโลกขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดต่างประเทศ ปัจจุบัน ธุรกิจที่เข้ามาจำหน่ายสินค้ามาจากกว่า 130 ประเทศ ปีที่ผ่านมาเอสเอ็มอีกว่า 5 หมื่นรายสร้างยอดขายบนอะเมซอนได้กว่า 5 แสนดอลลาร์ มีเอสเอ็มอีกว่า 2 แสนรายที่สามารถสร้างยอดขายได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์ เทียบกับปีก่อนหน้าเอสเอ็มอีที่ทำยอดขายได้เกิน 1 ล้านดอลลาร์เติบโต 20% จากสินค้าทั้งหมดที่จำหน่ายบนอะเมซอนกว่า 50% มาจากเอสเอ็มอี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทดังกล่าวไม่ขอให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องภาษีธุรกิจหรือการจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซภายในประเทศไทย