ด่วน! มติกกต.ฟัน ‘ธนาธร’ ปมถือหุ้นสื่อ มีคุณสมบัติต้องห้าม

ด่วน! มติกกต.ฟัน ‘ธนาธร’ ปมถือหุ้นสื่อ มีคุณสมบัติต้องห้าม

ด่วน! มติ กกต.ฟัน "ธนาธร" ปมถือหุ้นสื่อ มีคุณสมบัติต้องห้ามเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

เมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ด้วยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 มีผู้ร้องว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 (3) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42(3) อันเป็นกระทําการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง

คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว มีหลักฐานเบื้องต้นฟังได้ว่า ผู้ถูกร้องเป็นเจ้าของ หรือผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จํากัด ซึ่งประกอบกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ จํานวน 675,000 หุ้น เลขหมายใบหุ้นตั้งแต่ 1350001 ถึง 2025000

คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมอบหมายให้เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาและรับฟังพยานหลักฐานแทน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 มาตรา 43 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน ไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 ข้อ 64 และให้ดําเนินการไต่สวนให้สิ้นกระแสความต่อไป

ทั้งนี้ ตามข้อกล่าวหาข้างต้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มีสิทธิที่จะไม่ให้ถ้อยคําหรือมีหนังสือชี้แจงแสดง พยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา และมีสิทธิที่จะให้ทนายความหรือบุคคลซึ่งไว้วางใจเข้าร่วมฟังการชี้แจงแสดงหลักฐาน แก้ข้อกล่าวหาได้ ภายใน7 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา

มีรายงานว่า ขั้นตอนนี้ยังไม่ใช่การ "แจกใบส้ม" หรือระงับสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราว เพราะเป็นเพียงการชี้มูลในเบื้องต้นว่าข้อกล่าวหามีมูล หลังจากนี้ต้องรอนายธนาธรชี้แจงก่อน จึงจะพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ ถ้าเข้าข่ายก็จะส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งเพื่อวินิจฉัยต่อไป ตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 มีโทษจำคุก 1-10 ปี และตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 20 ปี