บวกตามราคาน้ำมัน

บวกตามราคาน้ำมัน

SET Index วานนี้พลิกปิดลบ ถึงแม้ดัชนีจะได้ปัจจัยบวกราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน

อาทิ PTT และ PTTEP อย่างไรก็ตาม ในระหว่างวันเกิดแรงเทขายทำกำไรในหุ้นหลายตัวหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก เช่น BDMS AOT และ EA ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,673.48 จุด (-0.62 จุด) Volume 4.7 หมื่นลบ. จาก Foreign Net  +862.23 ลบ. TFEX Net +2,549 สัญญา และ ตลาดตราสารหนี้ -532 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+/-ดาวโจนส์ปิดลบ 48.49 จุด นักลงทุนชะลอซื้อขายก่อนบริษัทจดทะเบียนเผยผลประกอบการ แต่หุ้นพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก

+สหรัฐยกเลิกผ่อนผัน 8 ประเทศนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน พร้อมเตือนว่าหากยังนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านจะถูกสหรัฐคว่ำบาตร

+ ราคาน้ำมันปิดบวกแรง 1.70 ดอลลาร์ +2.7% ปิด 65.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐยกเลิกผ่อนผันนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน การลดลงของสต็อกน้ำมันสหรัฐ การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก ส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน

+เฟดชิคาโกเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนมี.ค.

+ลุ้นภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆนี้

- สหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค. ลดลงต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านมือสองลดลงติดต่อกัน 13 เดือน

- ก.พาณิชย์รายงานตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. -4.88% 3M62 ส่งออก -1.64% ส่งผลให้ก.พาณิชย์เตรียมปรับลดเป้าส่งออกปีนี้จากระดับ 8%

- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 9.6 พันลบ. ค่าเงินบาท 31.89 บาท/US

** 23 เม.ย. สหรัฐเปิดเผย GDP 1/2562 วันศุกร์นี้

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันบวกแรงส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาหุ้นกลุ่มพลังาน โดยมีปัจจัยกดดันจากตัวเลขส่งออกที่มีแนวโน้มต่ำเป้า คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,660-1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

- กลุ่ม Defensive : กลุ่มค้าปลีก(CPALL MAKRO) กลุ่มท่องเที่ยว(AOT CENTEL ERW) กลุ่มโรงพยาบาล (BCH) กลุ่มโรงไฟฟ้า (EGCO RATCH)

- หุ้นเข้าใหม่คำนวณในดัชนี MSCI-EM  : CENTEL, RATCH, INTUCH, DTAC

- หุ้นที่มีโอกาสถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุน : SCC EGCO CPN LH TU BANPU BH BBL BDMS KBANK

- หุ้นได้ประโยชน์จากฤดูร้อน : เครื่องปรับอากาศ (SNC KOOL) โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (EA BCPG SSP GUNKUL) เครื่องดื่ม(TACC SAPPE ICHI  OISHI  OSP  CBG)

หุ้นมีข่าว   

·         KTB 1Q62 มีกำไรสุทธิ 7,301 ล้านบาท +7.6%yoy รายได้จากการดำเนินงาน  33,593 ล้านบาท เติบโต 13.8%yoy เนื่องจากรายได้ดบ.สุทธิ +20% จากการรับชำระเงินบางส่วนจากการขายทอดตลาดที่ดินหลักประกันจำนอง กำไรขายทรัพย์สินรอการขาย และกำไรจากเงินลงทุน  คชจ.ดำเนินงาน +20%yoy จากการตั้งสำรองด้อยค่าทรัพย์สินรอการขาย ทั้งนี้ ธนาคารยังไม่มีคชจ.สำรองค่าชดเชยพนักงานเนื่องจากอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543  สินเชื่อ +0.4%YTD จากการขยายตัวของสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ NIM  3.13% เพิ่มขึ้นจาก 3.07% ใน 1Q61 %NPL ลดลงเล็กน้อยสู่ 4.50%  อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อ NPL (Coverage Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 126.86%

·         SCB รายงาน 1Q62 มีกำไรสุทธิ 9,157 ลบ. -19%yoy เนื่องจากการบันทึกคชจ.ครั้งเดียวในการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงาน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +6%yoy รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย -18%yoy สินเชื่อเติบโต 3%yoy %NPL 2.77% ทรงตัว yoy แต่ลดลงจาก 2.85% ณ ปลายปี 61 Coverage Ratio 152.8% ดีขึ้นจากปลายปี่ 61 ที่ระดับ 146.7%

·         PRM ราคาปิด 7.30 บาท Bloomberg Consensus 9.10 บาท “Catalyst ใหม่”

จับตาโครงการประมูลท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ซึ่งจะประกาศผลประกาศผลในวันนี้ (23 เม.ย.62) มีผู้เข้าร่วมประมูล 2 กลุ่ม คือ 1. กลุ่ม GPC (PTT GULF) และ 2. กลุ่ม NPC (EA PRM) โดยวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ 1) เพิ่มความสามารถในการขนส่งตู้สินค้าจาก 7.7 ล้านตู้ต่อปี เป็น 18.1 ล้านตู้ต่อปี 2) เพิ่มความสามารถในการขนส่งรถยนต์จาก 2 ล้านคันต่อปี เป็น 3 ล้านคันต่อปี และ 3) เพิ่มสัดส่วนการขนส่งตู้สินค้าผ่านท่าโดยรถไฟทั้งหมดของท่าเรือแหลมฉบังจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 30

ความเห็น ตอนนี้ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่ากลุ่มใดจะชนะการประมูล เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม หากกลุ่ม NPC ชนะ คาดว่าจะเป็นผลบวกต่อ EA และ PRM โดยเฉพาะ PRM เนื่องจากเดิมทีประกอบธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรืออยู่แล้ว จะช่วยต่อยอดศักยภาพทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดีในแง่ Worse case หากกลุ่ม NPC ไม่ชนะการประมูล PRM ก็ยังมีประเด็นบวกของผลประกอบการที่คาดว่าปีนี้จะเติบโตทั้งในแบบ organic ในการเพิ่มขนาดกองเรือ และแบบ inorganic ในการเข้าซื้อกิจการ Big sea โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 62 ราว 946.33 ลบ +33% โดยราคาปรับตัวขึ้นจากคำแนะนำซื้อล่าสุดที่ 6.10 บาท มาที่ 7.30 หรือ +20% อย่างไรก็ตาม ราคาเหมาะสมที่ยังไม่รวมประเด็นท่าเรือแหลมฉบัง Bloomberg Consensus อยู่ที่ราว 9.10 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาปัจจุบัน แนะนำซื้อ

·         SONIC รุกขยายฐานโลจิสติกส์ ลั่นปีนี้โตทุกธุรกิจทั้งขนส่งทางทะเล ทางบก และทางอากาศ พร้อมดึงพาร์ตเนอร์ต่อยอดธุรกิจ คาดชัดเจนไตรมาส 2 ส่งซิกผลงานไตรมาสแรกสดใส โดดรับอานิสงส์การเมืองชัดหนุนธุรกิจรุ่ง ปักเป้ารายได้ปีนี้โต 20% (ที่มา : ทันหุ้น)

ความเห็น : เนื่องจากบริษัทสามารถทำธุรกิจขนส่งได้ครบวงจรทั้งทางน้ำ บก และอากาศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งในธุรกิจขนส่ง ทำให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ณ สิ้นปี 61 บริษัทมีเงินสดเหลือหลังจากการ IPO ทั้งสิ้น 246 ลบ.จึงมีโอกาสที่จะเห็นการเติบโตแบบ inorganic growth จากบริษัท โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 อยู่ที่ 86.5 ลบ. +85%YoY

·         DDD ส่องไตรมาส 2/2562 ยอดขายพุ่ง เตรียมคลอดผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ Snail White และ Prettii face จำนวน 4-8 รายการ แถมตัวแทนจำหน่ายต่างแดนส่งออเดอร์สินค้าหวังเจาะตลาดใหม่ในปีนี้อีก 1 ประเทศ เล็งซื้อแบรนด์และร่วมทุนเพิ่มเติม แย้มอยู่ระหว่างเจรจาคาดได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลัง 1 ราย(ที่มา : ทันหุ้น)

·         BKI เดินเครื่องขยายธุรกิจต่างแดนต่อเนื่อง ทั้งผ่านการลงทุนร่วมกับประกันภัยท้องถิ่น และพันธมิตรอย่างแบงก์กรุงเทพด้วยโมเดลรับงานแบบประกันภัยต่อ โดยได้ขยายรูปแบบการรับประกันดังกล่าวในอินโดนีเซีย เวียดนาม ไต้หวัน มาเลเซีย และเซี่ยงไฮ้ ส่วนประกันภัยในกัมพูชาหลังเปิดมากว่า 20 ปี ผู้บริหารปลื้มยอดเติบโตดี มีกำไรต่อเนื่อง(ที่มา : ทันหุ้น)

·         BR เดินหน้าเจาะตลาดตะวันออกกลาง เอเชีย CLMV รุกงาน OEM ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปั๊มออเดอร์เสริมทัพรายได้แกร่ง(ที่มา : ทันหุ้น)

·         CKP กดปุ่มขายไฟโครงการไซยะบุรี เครื่องที่ 1 กำลังการผลิต 175 เมกะวัตต์ เชื่อทยอย COD ครบ 1285 เมกะวัตต์ ภายในไตรมาส 4/2562 ตามแผน ด้าน BCPG เผยโรงไฟฟ้าพลังงานลมลิกอร์ เริ่ม COD แล้ว จ่อรับรู้รายได้ทันที พร้อมลุยศึกษาลงทุนในเอเชีย-แปซิฟิก คาดชัดเจนใน 2-3 เดือน(ที่มา : ทันหุ้น)

·         HTECH รุกเจาะตลาดใหม่ในเอเชีย ซุ่มเจรจาตั้งตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ หวังโกยออเดอร์ใหม่ๆ เพิ่ม ดันสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเพิ่มเป็น 40% ด้านการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ส่วนงานคาร์ไบด์ 6 เครื่อง ปัจจุบัน COD เรียบร้อยแล้วและจะเดินเครื่องเต็มประสิทธิภาพไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป(ที่มา : ทันหุ้น)

·         วันนี้ SISB ย้ายเทรดใน SET เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการเฉพาะกิจ จากเดิมเทรดอยู่ใน mai พร้อมแถลงแผนธุรกิจ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

 

  • AUCT ราคาปิด 6.45 บาท ราคาเหมาะสม 8.00 บาท “แนะนำซื้อ”

ผบห.เปิดเผยว่า ขณะนี้มีองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาเจรจาให้บริษัทเป็นคนกลางในการจัดงานประมูลเป็นจำนวนมากทั้ง SCB-KTB-TISCO-SAWAD-BKI และ คูโบต้า ฯลฯ จนในเดือน เม.ย. มีงานประมูลเต็มทั้งเดือนแล้ว โดยแนวโน้ม 1Q62 จะเติบโตโดดเด่น ในรอบหลายไตรมาส เพราะบริษัทได้จับมือกับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งเป็น "ค่ายรถยนต์รายใหญ่"เพื่อร่วมจัดงานประมูล รวมถึงลูกค้าเดิม อย่าง TOYOTA BUZZ เบนซ์ทองหล่อ การบินไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ฯลฯ ก็มีงานประมูลรถยนต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวก ถึงแม้มีคาดการณ์ว่ายอดขายรถใหม่ภายในประเทศปีนี้จะทรงตัวจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินรายใหญ่หลายรายยังคงส่งรถยนต์เข้าลานประมูลอย่างต่อเนื่อง คาดว่าเกิดจาก %NPL ของกลุ่มแบงก์ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยบวกให้ AUCT มีรถยนต์สำหรับการประมูลตลอดทั้งปี เราคาดกำไรทั้งปี 62 ราว 203 ลบ. +19%YoY
  • SKE เร่งปิดดีลพันธมิตรร่วมทุนโรงไฟฟ้าใหม่ คาดชัดเจนครึ่งปีหลัง พร้อมปักหมุด COD โรงไฟฟ้าแม่กระทิง มิ.ย.นี้ ประเมินทิศทางไตรมาส 2/2562 แจ่ม ความต้องการใช้ก๊าซ NGV เพิ่ม โกยรายได้ปีนี้โต 50-60% ตามแผน(ที่มา : ทันหุ้น)
  • MVP ใส่เกียร์ลุยงานตามแผน ดันพื้นที่ Thailand Mobile Expo เพิ่มอีก 6 พันตารางเมตร หรือ 30% จากปัจจุบัน 2 หมื่นตารางเมตร พร้อมโชว์กระแสเงินสดเต็มมือ 40-50 ล้านบาท เตรียมขยายการจัดกิจกรรมเพียบ เชื่อทิศทางผลงานครึ่งปีแรกโตกว่าช่วงเดียวกันกับปีก่อน(ที่มา : ทันหุ้น)