รปภ.โหดกระหน่ำแทงเพื่อนร่วมงานดับ

รปภ.โหดกระหน่ำแทงเพื่อนร่วมงานดับ

เกิดเหตุสลดใจเมื่อ 2 รปภ. ที่รู้จักกันมากว่า 20 ปี ใช้อาวุธมีดแทงกันจนเสียชีวิตภายในบ้านพักหรู ในซอยทองหล่อซอย 5 กทม.

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 20 เม.ย.62 ร.ต.อ.ต่อเงิน วัฒนกูล รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตถูกแทงภายในบ้านหลังหนึ่งซอยทองหล่อซอย 5 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบในที่เกิดพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พ.ฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นคฤหาสน์หรูสูง 2 ชั้น ขนาดใหญ่ บริเวณทางเดินข้างตัวบ้านติดกับรั้วฝั่งขวาของบ้าน พบศพ นายคำพันธ์ ชนะบุญ อายุ 62 ปี ชาวจ.ศรีสะเกษ เป็น รปภ.ของบ้านหลังดังกล่าว สภาพสวมเสื้อยืดสีกางเกงสแลกขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วนอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่ปากและชายโครงด้านซ้ายและหน้าท้องนอนเสียชีวิตเลือดไหลนองทั่วบริเวณคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 - 2 ชั่วโมงในที่เกิดเหตุยังพบมีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 4 นิ้ว ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายบุญส่ง (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี หัวหน้ารปภ.บ้านหลังดังกล่าวเผยว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือนายบุญเลิศ อายุ 60 ปีชาวจ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบ้านหลังดังกล่าว และพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ ก่อนเกิดเหตุนายบุญเลิศ ได้ออกไปตลาดเพื่อซื้อกับข้าว และกำลังจะกลับเข้าบ้านเพื่อมาเปลี่ยนเวรกับผู้ตาย ซึ่งเข้าเวรดึก และกำลังรถน้ำต้นไม้อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุกระทั้งนายบุญเลิศกลับมาจากการจ่ายตลาดได้กดกริ่งเรียกให้คนในบ้านเปิดประตูกน้าบ้านแต่ผู้ตายมาเปิดช้าเลยมีปากเสียงกันจนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

นายบุญส่ง เล่าต่อว่าส่วนตัวนายบุญเลิศ ผู้ก่อเหตุมีอารมณ์แปรปรวนค่อนข้างรุนแรงเคยมีปากเสียงเรื่องงานกับตนเคยจะใช้มีดแทงตนเองมาแล้วก่อนหน้านี้ตนเคยจะไล่ผู้ก่อเหตุออก 2 ครั้ง แต่เจ้าของบ้านได้ขอให้ผู้ก่อเหตุอยู่ต่อเนื่องจากเห็นว่าดูแลบ้านมานานแล้ว 28 ปี ส่วนผู้ตายเป็นคนค่อนข้างที่จะเงียบไม่ค่อยสุงสิงกับใครจึงไม่ทราบว่ามีเรื่องผิดใจกันมาก่อนหน้านี้หรือไม่ซึ่งผู้ก่อเหตุกับผู้ตายทำงานร่วมกันมากว่า 20 ปี ไม่คิดว่าจะมีเรื่องผิดใจกัน และก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเก็บรวบรวมพยานหลักฐานก่อนสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป