ประมาณการกำไรบจ.ที่ยังลดลง จำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดและทำให้ฟื้นเป็นรายตัว

ประมาณการกำไรบจ.ที่ยังลดลง จำกัดการเคลื่อนไหวของตลาดและทำให้ฟื้นเป็นรายตัว

ปัจจัยภายนอกยังหนุนภาวะลงทุน

ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมันเม.ย.ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และกลับมาเป็นบวก 3.1 จากเม.ย.ที่ -3.6 ขณะที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดครั้งใหม่ ขณะที่การรายงานผลประกอบการบจ.สหรัฐฯ โดยรวมดีกว่าคาดราว 5% เป็นปัจจัยบวกต่ภาพรวมการลงทุน มุมมองเชิงบวกดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะเห็นได้จากราคาทองคำที่ปรับลดลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรโดยรวมปรับขึ้น (หมายถึงราคาพันธบัตรลดลง) ยิ่งเป็นปัจจัยหนุนการลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง

ประมาณการกำไรบจ.ที่ยังลดลง ทำให้ยังเน้นการลงทุนรายตัว ประมาณการการเติบโตของกำไรบจ.ปี 2562 อยู่ที่ 13% (เติบโตสูงเนื่องจากกำไรไตรมาส 4/61 ที่ค่อนข้างต่ำ) อย่างไรก็ตามทิศทางกำไรบจ.ไทยนับจากต้นปียังปรับตัวลดลง โดยล่าสุดอยู่ที่ 108.7 จากต้นปีที่ 115.5 หรือ ลดลง 5.88% YTD ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลก และสอดคล้องการปรับประมาณการกำไรลงในตลาดหุ้นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวล เพียงแต่อาจจพกัดการเคลื่อนไหวของหุ้นไทย และทำให้การลงทุนเป็นการเลือกรายตัวในกลุ่มที่ผลประกอบการดี หรือสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว

ทิศทางเงินทุนไหลเข้ามีแนวโน้มดีขึ้น จากภาพรวมปัจจัยภายนอกที่เป็นบวกและการปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยของ MSCI ที่ส่งผลบวกต่อหุ้นที่เข้าคำนวณ อาทิ INTUCH, RATCH, DTAC, CENTEL และที่ถูกเพิ่มน้ำหนักอย่าง CPN, KBANK, BDMS, CPALL

กลุ่มหุ้นที่แนะนำลงทุน/เก็งกำไร รายตัวเราชอบ หุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH / กลุ่มธนาคารที่คาดงบออกมาดี BBL, TISCO, BAY / ดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน บวกต่อกลุ่มการเงิน อาทิ AEONTS, SAWAD, KTC, MTC, TK, GCAP/ กลุ่มดิจิตอลทีวี เก็งกำไรแบบตัดขาดทุนใน MONO, WORK, RS, BEC/ **กำไร IRPC มีโอกาสต่ำคาดมาก แนะนำเปลี่ยนตัว (switch) เป็น PTTGC

ภาพรวมกลยุทธ์: เลือกเก็งกำไรรายตัว โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน // หุ้นแนะนำวันนี้ BBL, PTTGC, MONO* (เป้า 2.00 ตัดขาดทุน 1.68), AAV* (เป้า 4.40 ตัดขาดทุน 4.04)

แนวรับ 1650-1655 / แนวต้าน : 1665-1670 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

แบงก์ชาติจีนอัดฉีดสภาพคล่อง – ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ 4 หมื่นล้านหยวน ผ่านข้อตกลง reverse repo อายุ 7 วัน ที่อัตีราดอกเบี้ย 2.55% หลังระงับมาตรการดังกล่าวนาน 18 วันทำการ

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันในบางมิติ - แหล่งข่าวระบุ รัสเซีย-กลุ่มโอเปก อาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นไป เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าประเด็นดังกล่าวจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังการประชุมโอเปกในเดือน มิ.ย.

ผลตอบแทนพันธบัตรดีดตัวสะท้อนภาพ Risk-on – อัตราผลตอบแทนพันธบัตรโลกดีดตัวขึ้นสะท้อนเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงจากพัฒนาการเชิงบวกของสงครามการค้า+นโยบายการเงินของธนาคารกลางที่ผ่อนคลาย

สำนักวิจัยทยอยปรับลดคาดการณ์'จีดีพี' - สศช.เตรียมปรับคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ใหม่ ยอมรับห่วงสงครามการค้ายืดเยื้อฉุดส่งออกโตต่ำ จับตาเศรษฐกิจจีนใกล้ชิด กังวลเงินหยวนอ่อนกระทบท่องเที่ยว

ประเด็นติดตาม: 17 เม.ย. – จีนรายงาน GDP ไตรมาส 1/62, ตัวเลขค้าปลีกจีน, ตัวเลขดุลการค้าของ สหรัฐฯ-ยุโรป / 18 เม.ย. – FED Beige Book

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)