“ยี่เทียนทัวร์” ชู เอไอ ดิสรัป ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

“ยี่เทียนทัวร์” ชู เอไอ ดิสรัป ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

“ยี่เทียนทัวร์ ” สตาร์ทอัพผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนำเที่ยวด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และ ดาต้า วิชวลไลเซชัน ยกระดับบริการนักท่องเที่ยวชาวจีน ผ่านเครือข่ายเอเจนชี่ทัวร์ไทยมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฏหมาย หวังแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

จากการประเมินสถิตินักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวไทย ปี 2562 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 10.8-10.9 ล้านคน เติบโต2.5-4.3 % จากปี 2561 ส่วนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.98-6.09 แสนล้านบาท แต่ขณะเดียวกันการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนได้เกิดปัญหา ทัวร์ศูนย์เหรียญ ในไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการ ‘กีดกัน’ ไม่ให้ใช้งานแพลตฟอร์มจีน ทำให้มีวงจรนายหน้าและธุรกิจจีนสวมรอยขึ้น

ในประเทศไทยมี 2 ลักษณะ คือ ทัวร์ศูนย์เหรียญกินรวบจากเมืองจีน และทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่ขายให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (F.I.TหรือFree Individual Travelers)ผ่านเว็บไซต์จีนหรือนายหน้าจีนในพื้นที่ท่องเที่ยวนั้นๆ แม้รัฐบาลไทยและจีนจะร่วมกันปราบปราม แต่ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญยังคงมีอยู่

โดยแนวคิดในการพัฒนา YiTianTOUR ให้เป็นแพลตฟอร์มกลางระหว่างนักท่องเที่ยวจีนกับเอเจนซี่ทัวร์ ในประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ นั้น 

ปฏิญญา สระกวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยี่เทียนไท จำกัด ได้ไอเดีย จาก ‘แจ๊ค หม่า’ ที่พัฒนาเว็บไซต์ถาเป่า (Taobao.com) ซึ่งเว็บขายปลีกออนไลน์ที่ใหญ่สุดในจีนออกมาเพื่อรองรับความต้องการของคนจีน เพราะการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ยากมาก และเป็น‘ Pain Points’ของคนจีนที่แก้ยาก

เช่นเดียวกับ ปัญหา ของการเข้าถึง กลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ติดข้อจำกัดทางด้านภาษา และระบบการจ่ายเงิน ทำให้เป็น อุปสรรคในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีนผ่านช่องทางออนไลน์บนมือถือและเว็บไซต์ ที่ผู้ประกอบการไทย ‘ไม่มี’ แต่จาก ‘ช่องว่าง’ ดังกล่าวกลายเป็น “โอกาส” ให้กับปฏิญญา และทีมได้พัฒนาแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีนผ่านระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยการจับคู่ดีมานด์และซัพพลายของเอเจนซี่ไทยให้เข้าถึงตลาดของนักท่องเที่ยวจีนแบบออนไลน์และให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวไทยใช้ระบบฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูล วางแผนการเดินทาง ศึกษาเส้นทาง เวลา และตัดสินใจซื้อแพ็คเกจทัวร์ไทยได้ง่ายทุกที่ทุกเวลา

ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Artificial intelligence และ data visualization ในระบบการตลาดอัตโนมัติผ่านธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยค้นหาและศึกษาพฤติกรรมความต้องการซื้อ ผ่านแพลตฟอร์ม ‘YiTianTOUR’ เพื่อสนับสนุนบริการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวจีนแบบอิสระที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

รวมถึงพัฒนาระบบการจัดการแพ็คเกจทัวร์ให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวไทยเพื่อช่วยให้บริการลูกค้า สนับสนุนงานขาย ช่วยงานแปลเอกสารทัวร์ภาษาจีน การจัดการบัญชีและกระบวนการสั่งซื้อ ผ่านเครื่องมือในระบบการตลาดอัตโนมัติอิเล็กทรอนิกส์บนฐานข้อมูลแบบสมาชิกด้วยเทคโนโลยี QR code identified และฟีดเจอร์ Tour Individual suggestion for customer

 “แพลตฟอร์มนี้จะดิสรัปอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยและส่งผลกระทบต่อทัวร์ศูนย์เหรียญจีนที่แฝงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบผิดกฎหมายจะหายจากประเทศไทย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น10% คิดมูลเป็นมูลค่า 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ปัจจุบันได้พัฒนาแพลตฟอร์มต้นแบบเพื่อเป็น‘ตัวกลาง’ ระหว่างลูกค้ากับเอเจนซี่ทัวร์ ซึ่งได้ทดลองตลาดและแก้ไขไปมากกว่า 8 ครั้งเพื่อให้รับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีน และมีแผนเปิดตลาดเต็มรูปแบบในเดือนพ.ค.นี้

สำหรับเงื่อนไขเอเจนซี่ที่เข้ามาร่วมต้องมีใบอนุญาต สื่อสารภาษาจีนได้ ส่วนบริษัทจะพัฒนาระบบหลังบ้านรายงานผลตอบแทนรายวันและมีระบบคิวอาร์โค้ดให้ทางโรงแรมนำไปใช้ โดยไม่ต้องจ้างพนักงานพูดภาษาจีน แค่ลูกค้าสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วเลือกทัวร์ในพื้นที่ และจ่ายเงินระบบอาลีเปย์ของจีน โรงแรมจะได้รายได้ เอเจนซี่เข้าร่วมจะได้ลูกค้าและผลตอบแทนตามสัญญา

"แพลตฟอร์มนี้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวจีนรุ่นใหม่ ให้มีทางเลือกและมั่นใจว่าใช้บริการทัวร์ถูกกฏหมายโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (F.I.T)ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นทุกปีจากจากเดิมนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม F.I.T มีสัดส่วน20% และ กรุ๊ปทัวร์ 80 % ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม F.I.T มีสัดส่วน 60% และ กรุ๊ปทัวร์ลดลงเหลือ 40% ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม F.I.Tจะมีอายุตั้งแต่ 17-47ปี นิยมจะมาเที่ยวต่อทริป 3คนขึ้นไ โดยมีระดับรายได้เฉลี่ยประมาณ 3.7 หมื่นบาทและค่าจ่ายที่เกิดขึ้นต่อสัปดาห์ตกประมาณ 5.4 หมื่นบาทต่อคนต่อทริป (เครื่องบิน ที่พัก อาหาร ของฝาก)"

ปฏิญญา ระบุว่า ภายใน1ปี จะเก็บพื้นที่ในจุดสำคัญในเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ ภูเก็ต กระบี่ เบตง สตูล หลีเป๊ะ สเกลไปยังพัทยา ระยอง ชลบุรี และพื้นที่รอบกรุงเทพฯปริมณฑล เชียงใหม่ อุดรธานี ฯล โดยมี12 เอเจนซี่ทัวร์เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์ม หลังจากนั้นจะกระจายทั่วประเทศ เพื่อกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน ที่รองรับนักท่องเที่ยวได้แล้ว

โดยบริษัทมีแผนจะขยายไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งมีปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญเช่นเดียวกับประเทศไทยด้วยการไป “ปลั๊กอิน” กับพาร์ทเนอร์ในเวียดนาม เหมือนแกร็บแท็กซี่ เพราะทุกประเทศมีกฏหมาย ที่ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อให้การดำเนินธุรกิจราบรื่น ซึ่งการที่จะขยายตลาดไปต่างประเทศ แบรนด์ต้องประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพาร์ทเนอร์ ที่จะเข้ามาทำธุกริจร่วมกัน

“ปีแรกรายได้1 ล้านบาทจากการขยายพื้นที่ใน 4 จังหวัดภาคใต้ แต่ในปีนี้มั่นใจว่ารายได้เพิ่มขึ้น 2หลักจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่ม F.I.T โดยบริษัทมีรายได้จากค่าคอมมิสชั่นในการซื้อทัวร์ครั้งละ 20% เป็นอย่างน้อย ค่าแปลจีน ค่าธรรมเนียมธนาคารประมาณ 3% ซึ่งเป็นราคาอยู่ในแพกเกจไม่ได้หักเพิ่ม ”

------------------------------

สำเร็จอย่าง “ยี่เทียนทัวร์

-ตัดสินใจแล้วลงมือทำ

-ทีมงานมีความมุ่งมั่น

-ศึกษาตลาด พฤติกรรมลูกค้า

-ให้อภัยตัวเองเมื่อพลาด

-มองหาที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ