ภาวะน้ำมันตึงตัวหนุนราคาเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น

ภาวะน้ำมันตึงตัวหนุนราคาเวสต์เท็กซัสปรับตัวขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันศุกร์ (12เม.ย.)ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากภาวะตึงตัวในตลาด จากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก), ความไม่สงบในลิเบีย และสหรัฐคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน และเวเนซุเอลา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดตลาดที่ราคา 63.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1% ปิดตลาดที่ราคา 71.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

ทั้งนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลงกว่า 500,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี ขณะที่ซาอุดีอาระเบียยังคงปรับลดกำลังการผลิต และเวเนซุเอลาลดการผลิตน้ำมัน เนื่องจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ

การผลิตน้ำมันของโอเปกลดลง 534,000 บาร์เรลในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 30.02 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2558 ซึ่งขณะนั้น โอเปกมีการผลิตน้ำมัน 29.97 ล้านบาร์เรล/วัน

เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว โอเปกและกลุ่มประเทศนอกโอเปก นำโดยรัสเซีย เห็นพ้องกันที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.2 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงเดือนมิ.ย.ปีนี้ เพื่อป้องกันการทรุดตัวของราคาน้ำมัน

ส่วนปีนี้ การผลิตน้ำมันของโอเปกและประเทศพันธมิตรได้ลดลงมากกว่า 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 30%

ซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 324,000 บาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 9.8 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนเวเนซุเอลาลดกำลังการผลิตน้ำมัน 289,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 732,000 บาร์เรล/วัน

โอเปกจะจัดการประชุมในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมัน ซึ่งแม้ซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตต่อไป แต่แหล่งข่าวระบุว่า ซาอุดีอาระเบียอาจตัดสินใจเพิ่มการผลิตตั้งแต่เดือนก.ค. หากยังคงมีปัญหาการผลิตน้ำมันจากประเทศอื่นๆ