ผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องโบอิงปกปิดเครื่องบินไม่ปลอดภัย

ผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องโบอิงปกปิดเครื่องบินไม่ปลอดภัย

โบอิงเปิดเผยว่า เมื่อเดือนมี.ค.ไม่มีคำสั่งซื้อใหม่ของเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์แม้แต่ลำเดียว ผลพวงจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกถึง 2 ครั้งในรอบ5เดือน จนทั่วโลกสั่งระงับบินและห้ามเครื่องบินรุ่นนี้ผ่านน่านฟ้า

โบอิงเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของไตรมาสแรกเมื่อวานนี้ว่า ยอดคำสั่งซื้อใหม่และยอดส่งมอบเครื่องบินในตระกูล 737 ทั้งหมดปรับตัวลดลง โดยยอดคำสั่งซื้อใหม่ลดลงเหลือ 95 ลำ จากเดิม 180 ลำในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดส่งมอบลดลงเหลือ 89 ลำจากเดิม 132 ลำ นอกจากนี้ ยังไม่มีคำสั่งซื้อใหม่เลยในเดือน มี.ค.และมียอดส่งมอบรุ่นนี้เพียง 11 ลำในช่วงต้นเดือน มี.ค. ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เครื่องบินตกในเอธิโอเปีย

ก่อนหน้านี้ เพียงไม่กี่วัน โบอิงเพิ่งแจ้งลดการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ลงจากเดือนละ 52 ลำ เหลือ 42 ลำ เริ่มตั้งแต่กลางเดือนนี้ หลังจากทั่วโลกสั่งพักการบินของเครื่องบินรุ่นนี้และไม่อนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้า สืบเนื่องจากเครื่องบิน 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ตกเมื่อวันที่ 10 มี.ค. และเครื่องบินรุ่นเดียวกันของไลออน แอร์ตกเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว

ล่าสุด โบอิง เผชิญปัญหาทางกฎหมายซ้ำเติมอีกเมื่อบรรดาผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม โดยกล่าวโทษโบอิงว่า ปกปิดข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยของเครื่องบิน 737 แม็กซ์คำฟ้องนี้ถูกยื่นต่อศาลในนครชิคาโก เพื่อเรียกค่าเสียหายจากโบอิงด้วยข้อหาฉ้อโกงเกี่ยวกับหลักทรัพย์จากกรณีบริษัทปิดบังข้อมูลแง่ลบ ที่ส่งผลให้ราคาหุ้นตกลงเมื่อความจริงถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน 

มูลค่าตลาดของโบอิงลดลงไป 34,000 ล้านดอลลาร์ ภายในสองสัปดาห์นับจากเกิดอุบัติเหตุ ส่วนนายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารซีอีโอ และนายเกรกอรี สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ถูกระบุเป็นจำเลยในคดีนี้