คุมเข้ม! นักค้าลอบขนส่งยาช่วงสงกรานต์ 6เดือนตรวจยึดของกลางได้30คดี

คุมเข้ม! นักค้าลอบขนส่งยาช่วงสงกรานต์ 6เดือนตรวจยึดของกลางได้30คดี

ป.ป.ส.จับมือไปรษณีย์ไทย เข้มงวดตรวจค้นพัสดุช่วงหยุดยาวสงกรานต์ สกัดกั้นลักลอบขนส่งยาเสพติด เผย 6 เดือนตรวจยึดของกลางได้ 30 คดี 11 จว. พร้อมตรวจฉี่-สารเสพติด พนักงานรถโดยสาธารณะ

เมื่อวันที่ 11 เม.ย.62 พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตรวจพัสดุไปรษณีย์ ที่ทำการไปรษณีย์ไทย สาขาประตูน้ำพระอินทร์ และบริษัท นิ่มเอ๊กเพลส จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสกัดกั้นการลักลอบขนส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาว นักค้ายาเสพติดจะฉวยโอกาสลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะการส่งสินค้าหรือพัสดุภัณฑ์ทางไปรษณีย์ จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้นสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ที่ผ่านมามีสถิติการจับกุมยาเสพติดที่ลักลอบขนส่งทางไปรษณีย์และบริษัทเอกชน ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (ต.ค. 2561 - มี.ค. 2562 ) สามารถจับกุมได้ 30 คดี 11 จังหวัด ของกลาง ยาบ้า 631,948 เม็ด กัญชา 71.59 กิโลกรัม ไอซ์ 2.7285 กิโลกรัม คีตามีน 10.3 กรัม เฮโรอีน 21 กิโลกรัม พืชกระท่อม 764 กิโลกรัม และยาแก้ไอ 1,834 ขวด

พ.ต.ต.สุริยา กล่าวอีกว่า ในระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย. ป.ป.ส.จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สุ่มตรวจปัสสาวะ วัดระดับแอลกอฮอล์ของพนักงานขับรถโดยสาร จัดจุดตรวจป้องกันกลุ่มเสี่ยง เช่น พนักงานขับรถ พนักงานประจำรถ เพื่อป้องปรามลดการใช้ยาเสพติดในสถานีขนส่ง คมนาคม จุดบริการประชาชน เพื่อลดอันตรายจากการสัญจรบนท้องถนน ที่มีสาเหตุมาจากการใช้สารเสพติด หากพบผู้เสพยาเสพติดจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา หากพบว่ามีพฤติการณ์เป็นผู้ค้ายาเสพติดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของศูนย์อำนวยการเพื่อความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2561 พบว่า มีการเกิดอุบัติเหตุทางถนน 3,724 ครั้ง เสียชีวิต 418 ราย บาดเจ็บ 3,897 ราย สาเหตุหลักเกิดจากการดื่มแล้วขับและขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์มีการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 79.85 โดยเฉพาะวันที่ 17 เม.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์เกิดอุบัติเหตุ 307 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 336 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ ขับรถเร็วเกินกำหนด รองลงมาคือ ดื่มแล้วขับ