‘เจมาร์ท’โหมแคมเปญดันยอด25%

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาด บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือไทยปีนี้ เชิงมูลค่าคาดว่าจะทรงตัวหรือเติบโตเล็กน้อยเป็นตัวเลขหลักเดียว ส่วนจำนวนเครื่องเทียบกับปีที่ผ่านมาน่าจะลดลง 5% หรือมียอดขายประมาณ 17 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ดี ราคาขายเฉลี่ยต่อเครื่องมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ปัจจุบันระดับราคาที่ขายดีคือ 1 หมื่นบาท โดยเฉพาะแบรนด์จากประเทศจีน ขณะเดียวกันรุ่นเรือธงราคา 2-3 หมื่นบาทเติบโตมากขึ้นเช่นกัน โดยภาพรวมกลุ่มราคา 5,000 - 1 หมื่นบาท มีสัดส่วนประมาณ 50%

“ไตรมาสแรกตลาดค่อนข้างชะลอ ส่วนหนึ่งเกิดจากที่ช่วงไตรมาส 4 ปีที่แล้วมีการใช้จ่ายกันไปมากแล้ว ทั้งสินค้าใหม่ยังไม่ค่อยเข้ามาเปิดตัวมากนัก ส่วนการเมืองมีผลเล็กน้อยจากความกังวลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทว่าตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นมาเริ่มได้เห็นว่าบรรยากาศดีขึ้น คาดว่าครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะกลับมาดีขึ้นแน่นอน”

สำหรับเจมาร์ท ในภาวะที่ตลาดไม่เติบโตได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลายอย่าง อันดับแรกด้วยธุรกิจค้าปลีกต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูง จึงไม่ได้เน้นการขยายสาขา สิ่งที่ทำคือเพิ่มยอดขายในสาขาเดิมให้ได้มากขึ้น โดยนอกจากการรักษาฐานรายได้จากการขายโทรศัพท์มือถือแล้ว เห็นสัญญาณการเติบโตที่ดีในผลิตภัณฑ์แวร์เอเบิลและสมาร์ทวอทช์ต่างๆ 

ขณะเดียวกัน เซ็กเมนท์การทำตลาดและพิจารณาการวางจำหน่ายตามสถานที่ตั้งสาขามากขึ้น มากกว่านั้นปรับปรุงร้านค้าใหม่ให้ดูทันสมัย เพิ่มพื้นที่ขายอุปกรณ์เสริม ปรับเปลี่ยนให้เจมาร์ทกลายเป็นจุดหมายของการซื้อแกดเจ็ท ปีนี้ตั้งงบปรับปรุงหน้าร้านไว้ประมาณ 50 ล้านบาท เฉลี่ยใช้สาขาละ 1 ล้านบาท

นอกจากนี้ เพิ่มช่องทางไดเร็คเซลที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรงในตลาดต่างจังหวัดตามหัวเมืองต่างๆ โดยทำยอดขายได้ 10 ล้านบาทต่อเดือน และคาดว่าจะสามารถเติบโตได้อีก ขณะนี้มีทีมขายอยู่ราว 50 คน 

"เรามุ่งทำในสิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่ง ที่เน้นอย่างมากคือข้อเสนอด้านการประกันในโมเดลต่างๆ ซึ่งยังไม่มีใครทำได้ หรือถ้าทำต้องใช้งบการลงทุนที่สูงมาก ในแผนปีนี้จะใช้งบการตลาดไตรมาสละ 15 ล้านบาท"

นายดุสิต สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท โมบาย จำกัด กล่าวว่า ออกแคมเปญ “เจมาร์ท จัดเต็ม ดูแลเครื่อง ดูแลคุณ ลุ้นโชคใหญ่” มอบสิทธิประโยชน์ประกอบด้วย การรับประกันความพึงพอใจเปลี่ยนเครื่องได้ใน 30 วัน ประกันอุบัติเหตุทั้งเครื่องโทรศัพท์และตัวบุคคล พร้อมลุ้นโชคทองคำหนัก 30 บาท และรับคะแนน Enjoy Card 30 เท่า ทุกวันที่ 30 และแจก 30 เหรียญเจฟิน โดยมีระยะเวลาแคมเปญตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย.- 9 ก.ค.2562

เจมาร์ทตั้งเป้าไว้ว่า หลังมีการปรับปรุงหน้าร้าน ปรับกลยุทธ์ รวมถึงการจัดทำแคมเปญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ยอดขายไตรมาสที่ 2 เทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ประมาณ 2 พันล้านบาท จะเติบโตได้ถึง 25% ปัจจุบันโดยเฉลี่ยจาก 200 สาขาที่มี ทำยอดขายได้สาขาละ 3.5 ล้านบาทต่อเดือน รวมทั้งปี 2562 ตั้งเป้ารายได้ไว้ 1 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อนหน้า 

พร้อมระบุ การที่ค่ายมือถือออกมาทำตลาดอย่างรุนแรงยังไม่เห็นสัญญาณว่าส่งผลกระทบกับยอดขาย อีกทางหนึ่งเป็นพันธมิตรกับบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ให้บริการจดทะเบียนและจำหน่ายซิมการ์ดซึ่งขณะนี้เริ่มรับรู้รายได้แล้ว