'อย.' แจงไม่เอื้อ 'มูลนิธิข้าวขวัญ' ปลูกกัญชา

'อย.' แจงไม่เอื้อ 'มูลนิธิข้าวขวัญ' ปลูกกัญชา

รองเลขาธิการ อย. แจงไม่เอื้อ "มูลนิธิข้าวขวัญ" ปลูกกัญชา ย้ำรับแจ้งการครอบครองกัญชา

ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ชี้แจงกรณีตำรวจเข้าตรวจสอบที่ทำการของมูลนิธิข้าวขวัญ จังหวัดสุพรรณ ปรากฏว่าพบต้นกัญชา เมล็ดกัญชา รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูป และมีการตั้งข้อสงสัยว่า นโยบายปลดล็อคกัญชาเพื่อประโยชน์ของประชาชนจริงหรือไม่ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคดีความไปแล้ว อย.ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายได้ เพราะอย.มีหน้าที่รับผิดชอบในการรับแจ้งการครอบครองกัญชา และพิจารณาอนุญาตตามข้อบัญญัติของกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ขอชี้แจงว่าโดยเจตนาของกฎหมายต้องการให้ผู้ครอบครองกัญชามาแจ้งครอบครองให้ถูกต้องตามลักษณะของกัญชาที่ครอบครอง และวัตถุประสงค์ในการใช้ ซึ่งผู้แจ้งจะได้รับการยกเว้นโทษ แต่ต้องมาแจ้งภายใน 90 วันนับตั้งแต่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยสิ้นสุดในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ อย.ขอยืนยันว่าไม่ได้ผูกขาดให้กลุ่มทุนใดเป็นการเฉพาะ ผู้ใดที่เข้าคุณสมบัติก็สามารถขออนุญาตปลูกได้ สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่สามารถขออนุญาตปลูกผลิตและสกัดกัญชาได้มีอยู่ 2 กรณี คือ กรณีการปลูก ผลิต และสกัดกัญชาเพื่อทางการแพทย์ ภายใน 5 ปีแรกหลังกฎหมายบังคับใช้ผู้ขออนุญาตต้องเป็นหน่วยงานของรัฐ เช่น มหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการสอนทางการแพทย์เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์โรงพยาบาลรัฐหรือบุคคลต่อไปนี้ ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐ เช่นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีการสอนและวิจัยทางการแพทย์ หรือเภสัชศาสตร์ กลุ่มผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น สหกรณ์การเกษตรวิสาหกิจชุมชนที่อยู่ภายใต้หน่วยงานของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษา ส่วนกรณีที่ 2 การปลูก ผลิต หรือสกัดกัญชา เพื่อการศึกษาวิจัย บุคคลนี้สามารถขออนุญาตได้โดยไม่จำเป็นต้องดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐแต่อย่างใด ซึ่งมีหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตเพื่อการศึกษาวิจัยไปแล้ว เช่น องค์การเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยรังสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งการอนุญาตเลขาธิการอย.เป็นผู้อนุญาตโดยเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ขอย้ำว่าทั้ง

2 กรณีเป็นเพียงการครอบครองเท่านั้น ในส่วนของผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชาในการรักษา จะต้องเข้ามาแจ้งต่ออย. เพื่ออยออกหนังสือรับรองให้ ข้อมูลผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาที่อย.ขณะนี้มีจำนวน 906 ราย โดยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 11 รายและผู้ป่วย 895 ราย สำหรับในต่างจังหวัดมีผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาเป็นผู้ประกอบวิชาชีพ 5 รายผู้ป่วย 442 รายและบุคคลอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก 2 กลุ่มข้างต้นมีมาแจ้งเพียงรายเดียว นอกจากนี้ ยังมีผู้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามทางสายด่วนอย. 1556 ถึงจำนวน 8,258 ราย