'รอง ผบช.น.' ถกคุมเข้มสงกรานต์ พร้อมตั้งจุดคัดกรอง-ล่ามแปลภาษา

'รอง ผบช.น.' ถกคุมเข้มสงกรานต์ พร้อมตั้งจุดคัดกรอง-ล่ามแปลภาษา

"รอง ผบช.น." ถกเข้มมาตรการรักษาความปลอดภัย-อำนวยจร.ให้ประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เผยเบื้องต้น มีการตั้งจุดคัดกรอง-เตรียมล่ามสำหรับจุดที่มีชาวต่างชาติมากอย่างสีลม-ข้าวสาร ยันการข่าวไม่น่าห่วง

เมื่อวันที่ 9 เม.ย.62 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. เป็นประธานการประชุมมาตรการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านจราจรให้กับประชาชน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2562 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในสังกัด บช.น. เข้าร่วมประชุม

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ จะดูในเรื่องบริเวณจัดงาน ซึ่งมี 2 ลักษณะ 1.บริเวณที่กทม.อนุญาตให้ประชาชนเข้ามาเล่นสงกรานต์ เช่น ตรอกข้าวสาร ถนนสีลม 2.งานรื่นเริงตอนเย็น เช่น ในย่านอาร์ซีเอกับวังทองหลาง เราก็จะดูว่าสน.พื้นที่ในแต่ละจุดมีมาตรการอย่างไร อาทิ ถนนสีลม มีชาวต่างชาติเข้ามาด้วย และมีประชาชนเข้ามาเล่นหลายหมื่นคน ย่อมมีมิจฉาชีพเข้ามาปะปน เช่น มากระทำการลักทรัพย์ หรือกรีดกระเป๋า สำหรับจุดที่มีคนมาเล่นเกิน 5,000 คน จะมีที่เอเชียทีค ตรอกข้าวสาร ถนนสีลม และสวนลุมพินี ซึ่งจุดที่เป็นห่วงคือ ถนนสีลม และตรอกข้าวสาร เพราะมีชาวต่างชาติเข้ามาเล่นจำนวนมาก จึงต้องมีมาตรการ เช่น มีจุดคัดกรอง และเตรียมล่ามแปลภาษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีน

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยต่อไปว่า เรื่องการจราจร ทางบก.จร. และสน.ต่างๆ จะไปตั้งจุดตรวจ ดูตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด เช่น ห้ามดื่มสุราบนรถ ห้ามจำหน่ายสุราบนทางเท้า รวมถึง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ในส่วนของถนนข้าวสาร กรณีที่ผู้ประกอบการแจ้งว่าไม่มีการจัดงานนั้น หมายถึงไม่มีการจัดดนตรีในช่วงเย็น แต่มีการสาดน้ำเป็นไปตามปกติ ทางสน.ชนะสงคราม จึงต้องไปกำหนดพื้นที่ให้เล่นน้ำ และมีจุดคัดกรองคนที่จะเข้าไปเล่นน้ำ รวมถึง ตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ว่าอะไรเล่นได้ อะไรเล่นไม่ได้ เช่น ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงที่เล่นไม่ได้ เป็นต้น

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ เปิดเผยด้วยว่า ตอนนี้การข่าวไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ส่วนการตรวจพื้นที่ ในบริเวณที่กำหนดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์ จะมีเจ้าหน้าที่อีโอดีไปตรวจสอบความปลอดภัย ก่อนส่งมอบพื้นที่ให้กับสน.พื้นที่ นอกจากนี้ การประชุมวันนี้ จะตรวจความพร้อมสน.แต่ละพื้นที่ และให้เสนอแผนขึ้นมา ซึ่งทาง บช.น. จะเติมเต็มหากไม่สมบูรณ์ สำหรับกำลังพลตำรวจที่ใช้ อันดับแรก คือ ในระดับชั้นผู้บังคับบัญชาห้ามลาห้ามขาด ยกเว้นป่วย ทั้งในระดับกองบัญชาการ กองบังคับการ และสถานีตำรวจ โดยใช้กำลังพลจำนวนกว่า 12,000 นาย ในการดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน.