รอปัจจัยภายนอกใหม่ คาดตลาดกลับมามองผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62

รอปัจจัยภายนอกใหม่ คาดตลาดกลับมามองผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62

ต่างประเทศยังรอเจรจาการค้าและ Brexit

ตลาดหุ้นสำคัญเริ่มมีปริมาณซื้อขายเบาบางหรือเผชิญแรงทำกำไร ขณะที่ยังคงรอติดตามความคืบหน้าของผลการเจรจาการค้า สหรัฐฯ-จีน และความคืบหน้าการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) ทั้งนี้เราประเมินตลาดจะเริ่มให้ความสำคัญกับผลประกอบการไตรมาส 1/62 ที่กำลังจะประกาศ โดยควรระวังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรง และเน้นหุ้นที่ยังไม่ตอบรับ หรือที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 +61% QoQ แต่ -7% YoY อุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีแนวโน้มรายงานผลการดำเนินงานดีขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 1 เป็นช่วง high season ขณะที่ กลุ่มที่เกี่ยวกับปิโตรเลียม ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มฟื้นตัว ตามราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานจะลดลง YoY จากธุรกิจที่ชะลอตัวและผลของการตั้งสำรองรายจ่ายผลประโยชน์พนักงาน ทั้งนี้กลุ่มที่รายงานกำไรเป็นบวกทั้ง QoQ และ YoY ได้แก่ กลุ่มไฟฟ้า (+492% QoQ, +50%YoY) กลุ่มการเงิน (+9% QoQ, 19% YoY) การแพทย์ (+81% QoQ, +11% YoY) และท่องเที่ยว (+48% QoQ, 11% YoY)

กลุ่มธนาคาร คาดกำไร +17% QoQ, -7% YoY ดีขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายปีก่อน จากต้นทุนที่ลดลง แต่ลดลง 7% YoY เนื่องมาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-interest income) ที่อ่อนลง และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่สูงขึ้น โดยมีธนาคารที่คาดรายงานกำไรเติบโตขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ได้แก่ BBL (+14%QoQ,+2% YoY), BAY (+4% QoQ, +2% YoY) และ TISCO (+8% QoQ, +5% YoY)

แกว่งตัวและปริมาณซื้อขายชะลอช่วงเทศกาล ก่อนขึ้นทดสอบ 1670-1700 จุด เรายังชอบหุ้นกลุ่มพลังงาน โรงกลั่น ปิโตรฯ ที่ราคาสะท้อนผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อาทิ PTT, PTTEP, TOP, BCP, PTTGC, SCC รวมถึง หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ CPF, TU, CPALL, AOT, ERW, MINT,STEC, GPSC, EGCO, BTS, BEM / กลุ่มร.พ. เราชอบ RJH, BCH / หุ้นเข้า MSCI หนุนแรงเก็งกำไรใน INTUCH, RATCH, DTAC, CENTEL และหุ้นอื่นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก / ดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน บวกต่อกลุ่มการเงิน อาทิ AEONTS, SAWAD, KTC, MTC, TK, GCAP

ภาพรวมกลยุทธ์: ปริมาณการซื้อขายของตลาดหุ้นต่างๆอาจชะลอตัวช่วงสั้น เพื่อสร้างฐานก่อนเดินหน้าต่อ ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการลงทุน   // หุ้นแนะนำวันนี้ BBL, PTTGC, TSR* (เป้า 2.90 ตัดขาดทุน 2.26), AQUA* (เป้า 0.70 ตัดขาดทุน 0.48)

แนวรับ 1635-1640 / แนวต้าน : 1650-1655 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

กระบวนการเลื่อนเส้นตาย Brexit – รัฐสภาอังกฤษอนุมัติข้อเสนอการเลื่อนกำหนดวันถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (Brexit) จากวันที่ 12 เม.ย.62 เป็นวันที่ 30 เม.ย.62 อย่างไรก็ตาม ต้องรอการอนุมัติจากสมาชิก EU ทั้ง 27 ชาติ ในการประชุมวันที่ 10 เม.ย. นี้

ผลเจรจาการค้าคืบหน้า – ทำเนียบขาวระบุ กระบวนการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ มีความคืบหน้าในเชิงบวกและใกล้บรรลุข้อตกลง โดยฝั่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเตรียมหารือกันต่ออีกครั้งในสัปดาห์นี้ (ล่าสุด ทรัมป์เผยว่า กระบวนการเจรจามีแนวโน้มประสบผลสำเร็จภายใน 4 สัปดาห์ ข้างหน้านี้)

ยอดสั่งซื้อภาคการผลิตสหรัฐฯ ชะลอตัว – กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผยตัวเลขยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือน ก.พ. ปรับตัวลดลง 0.5% สอดคล้องคาดการณ์ที่คาดว่าจะลดลง 0.6%

ราคาน้ำมันพุ่งรับเหตุความรุนแรงในลิเบีย – ราคาน้ำมันยกระดับพร้อมความชันที่สูงขึ้นหลังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปก อาจนำมาสู่ภาวะตึงตัวของอุปทานน้ำมันดิบโลก

ประเด็นติดตาม: 10 เม.ย. – ประชุมนโยบายการเงินยุโรป, EU พิจารณาขยายเส้นตาย Brexit,ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ / 11 เม.ย. – FOMC meeting minutes / 12 เม.ย. – ดุลการค้าจีน

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)